สยามไบโอไซเอนซ์ และ SCG จับมือ AstraZeneca ผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ซึ่งปัจจุบัน AstraZeneca ได้ทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 แล้ว ตั้งเป้าพร้อมใช้ในประเทศไทยกลางปี 2021 ถ้าหากการวิจัยวัคซีนสำเร็จ
สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของไทย ร่วมกับ AstraZeneca บริษัทยาสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน พร้อมทั้งสยามไบโอไซเอนซ์ และ SCG ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดกำลังวิจัยอยู่ โดยตั้งเป้าพร้อมใช้ในประเทศไทยกลางปี 2021 หากการวิจัยวัคซีนสำเร็จ
นอกจากนี้ในรายงานยังกล่าวถึงการผลิตวัคซีนจำนวนมากโดยสยามไบโอไซเอนซ์นี้จะช่วยส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนอย่างกว้างขวาง เท่าเทียม และรวดเร็ว แก่ประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียนด้วย โดย AstraZeneca จะจัดสรรวัคซีนนี้ให้ทั่วโลกโดยไม่หวังผลกำไรในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 และจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับสยามไบโอไซเอนซ์ในการผลิตวัคซีนด้วย
ปัจจุบัน AstraZeneca ได้จับมือกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดในการวิจัยวัคซีนป้องกัน COVID-19 อยู่ และเป็น 1 ในวัคซีนที่อยู่ในขั้นตอนการทดลองระยะ 3 แล้วใน 5 ประเทศ แม้ว่าในสหรัฐอเมริกาที่มีการทดลองจะหยุดการทดลองชั่วคราวจากผู้ทดสอบมีอาการป่วยที่ระบุสาเหตุไม่ได้ก็ตาม
สำหรับ สยามไบโอไซเอนซ์ ก่อตั้งในปี 2009 โดยในเว็บไซต์ของบริษัทได้กล่าวถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะให้ประชาชนชาวไทยสามารถได้รับยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง สร้างความมั่นคงทางยา โดยปัจจุบันบริษัทมี 2 บริษัทย่อยในกลุ่มได้แก่ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด และบริษัท เอเพ็กซ์เซล่า จำกัด
บทวิเคราะห์จาก Credit Suisse มองว่าเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศไทย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไทยไม่เคยมีการลงนามกับบริษัทยารายใหญ่ของโลกที่กำลังเร่งการวิจัยวัคซีน COVID-19 แม้แต่รายเดียว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา