ในที่สุด Instagram ก็ทดสอบระบบขายของผ่านแอป แต่สุดท้ายผู้ขาย หรือระบบชำระเงินจะได้ประโยชน์

ระบบขายสินค้าภายใน Instagram (อินสตาแกรม) อาจเป็น Feature ที่พ่อค้าแม่ค้า รวมถึงนักช้อปออนไลน์เฝ้ารอ เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขาย ซึ่งสัปดาห์ก่อน Instagram ได้ประกาศทดลองระบบนี้แล้ว แต่จะเป็นอย่างไรบ้าง ต้องไปดูกัน

ภาพจาก pixabay.com
ภาพจาก pixabay.com

20 แบรนด์ในสหรัฐอเมริกาเริ่มก่อน

เว็บไซต์ Business Insider รายงานว่า ในสัปดาห์นี้ 20 แบรนด์ในสหรัฐอเมริกา อาทิ Warby Parker, J.Crew และ Levi’s จะได้ใช้ Feature ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม Instagram ก่อน โดยแบรนด์เหล่านี้สามารถใส่ Bubble หรือกล่องข้อความภายในรูปภาพที่โพสต์ขึ้นไป เพื่อใส่รายละเอียดสินค้า และราคาเข้าไปได้ หากผู้ใช้ Click ที่ Bubble ดังกล่าว ก็จะถูกส่งไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนชำระเงิน

อย่างไรก็ตาม 20 แบรนด์แรกที่ใช้งาน Feature นี้ยังไม่ต้องชำระค่าใช้งาน และยังไม่มีแผนเก็บค่าธรรมเนียมการขายสินค้าจากผู้ซื้อที่มาจาก Instagram เช่นกัน เพราะแพลตฟอร์ม Social Media รายนี้ยังเน้นสร้างรายได้จากการลงโฆษณามากกว่า นอกจากนี้ทางทีมงานยังเตรียมปล่อย Feature อื่นๆ ตามมา เช่น Save Product For Later เพื่อยกระดับการทำตลาดออนไลน์ของแบรนด์ต่างๆ

ภาพจาก pixabay.com
ภาพจาก pixabay.com

ผู้ใช้ติดตาม IG ของธุรกิจต่างๆ ถึง 50%

จิม สไควร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการตลาดของ Instagram บอกว่า Feature ใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ User ทั้งฝั่งผู้บริโภค และองค์กรต่างๆ เพราะปัจจุบัน 50% ของผู้ใช้ทั่วไปจะติดตาม IG ของธุรกิจต่างๆ นอกจากนี้กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปยังพบเจอสินค้า หรือบริการใหม่ของธุรกิจต่างๆ ผ่านช่องทาง IG ถึง 60% ที่สำคัญ Feature ใหม่นี้ยังตอบโจทย์การใช้งาน IG ที่ส่วนใหญ่ใช้เพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ไม่ได้ใช้เพื่อซื้อของ

“Feature ใหม่จะทำให้ IG มีประโยชน์ในการใช้งานมากขึ้น เพราะนอกจากแบรนด์จะโพสต์รูปสินค้าที่จัดวางอย่างสวยงาม และไม่ได้เป็นการรบกวนการใช้งานของ User ต่างๆ ยังช่วยให้แพลตฟอร์ม IG มีความหลากหลาย และตอบโจทย์ในแง่ธุรกิจที่มากกว่าแค่ลงโฆษณาในหน้า Feed ที่สำคัญยังถือเป็นการสร้างการซื้อขายสินค้าภายในแพลตฟอร์มให้เกิดขึ้นจริง ตามที่แบรนด์ต่างๆ หวังไว้”

สรุป

ตอนนี้ Instagram มี Active User กว่า 500 ล้าน จึงเป็นโอกาสที่แบรนด์ต่างๆ จะเข้ามาจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางนี้ได้ แต่ถ้าถามว่า Feature นี้จะเข้ามาในประเทศไทยเมื่อไหร่คงตอบไม่ได้ แต่ถามว่ามีประโยชน์กับการซื้อขายผ่าน Social Commerce ในประเทศไทยหรือไม่ ก็ตอบแค่มีเพียงเล็กน้อย

เพราะปกติแล้วการซื้อขายบนโลกออนไลน์ของไทยจะใช้วิธี Chat Commerce หรือการคุยไปซื้อไป แต่หากพฤติกรรมเหล่านี้เปลี่ยน มองว่าผู้ให้บริการแพลตฟอร์มชำระเงิน เช่น 2C2P หรือ Omise ก็น่าจะได้ประโยชน์ เพราะทุกเว็บไซต์ต้องมีระบบชำระเงินที่ดี และน่าจะเป็นโอกาสเติบโตของระบบเพย์เมนต์มากกว่า

อ้างอิง // Instagram wants you to start shopping in the app

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา