มีผลสำรวจน่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคในอเมริกาเหนือ พบว่าส่วนใหญ่ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าขอพื้นที่อิสระในการเลือกซื้อของ ไม่ต้องการให้พนักงานเดินตาม
ผลสำรวจนี้จัดขึ้นโดย HRC Retail Advisory ทำการสำรวจกับนักช้อปชาวอเมริกาเหนือ 2,900 คน เกี่ยวกับประสบการณ์ในการช้อปปิ้งในร้านค้า ผลสำรวจพบว่า 95% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการเลือกซื้อของเพียงลำพัง ไม่ต้องการให้ใครเดินตาม หรือให้ข้อมูลสินค้า นอกจากจะต้องการขอความช่วยเหลือบางอย่างจากร้านค้าเท่านั้น
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะด้วยผู้บริโภคยุคนี้ต้องการความเป็นส่วนตัว และต้องการประสบการณ์ในการซื้อของที่ดี อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการสอบถามข้อมูลของสินค้ากับคนรอบตัวไม่ว่าจะเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือการหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ จาก Influencer ต่างๆ ไม่ต้องการข้อมูลจากทางร้านค้ามากเหมือนแต่ก่อน
ส่วนผลสำรวจอื่นๆ พบว่า 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการเช็คราคาสินค้าผ่านเครื่องสแกนราคาด้วยตนเอง แทนที่จะสอบถามจากพนักงานขาย และ 69% บอกว่านิยมสั่งซื้อสินค้าเทคโนโลยีจากทางออนไลน์ แล้วมารับสินค้าที่หน้าร้านมากกว่า
ผู้บริโภคมองว่าพนักงานในร้านจะมีส่วนช่วยได้มากก็ต่อเมื่อเป็นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของพนักงาน หรือมีข้อมูลแนะนำ และ 76% ต้องการเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมการบริการให้ดีขึ้น เช่น แอพพลิเคชั่น มีความเห็นว่าช่วยมีประโยชน์ในร้านมากขึ้น
Farla Efros ประธานของ HRC Retail Advisory กล่าวว่า “ผู้บริโภคยุคนี้นิยมเทคโนโลยีที่ใช้ในร้านค้ามากกว่าพนักงานขาย ทำให้ร้านค้าปลีกต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับความคาดหวังของผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์ที่ดี การพัฒนาเทคโนโลยีในการช้อปปิ้ง กับการสร้างประสบการณ์ที่ดีย่อมส่งผลดีในระยะยาวอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจอื่นๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่นำใช้คู่กับการขายหน้าร้าน เช่น 8% บอกว่า การจ่ายเงินผ่านโมบายล์แอพพลิเคชั่นกลายเป็นสิ่งที่สำคัญกับเขา และ 17% บอกว่าห้องลองเสื้อผ้าที่ใช้เทคโนโลยีก็มีความสำคัญกับเขาเช่นกัน ในขณะที่ 6% ให้ความสำคัญกับการจัดแสงไฟในห้องลองเสื้อผ้า
รวมถึงการออกแบบบรรยากาศในร้านก็ส่งผลต่อการช้อปปิ้งได้เช่นกัน โดยเฉพาะสินค้าความงาม ซึ่งคน Gen Z ให้ความสำคัญกับข้อนี้มาก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา