Shopee (ช้อปปี้) ผู้ให้บริการ e-Marketplace รายใหม่ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 58 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากร้านค้าและลูกค้าอยู่พอสมควร ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดและรุนแรง มีผู้ให้บริการที่ถอยทัพและรุกเข้าสู่ตลาดมาในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา เทเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Shopee ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
- หลังจากเปิดให้บริการมา 6 เดือน Shopee มีผู้ใช้งานประมาณ 2 ล้านราย และมีสินค้าขายในเว็บ 2 ล้านชิ้นจาก 20 หมวดสินค้า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมามียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 4 เท่า ขณะที่ช่องทางโซเชียล Instagram ประมาณ 2 แสนราย Facebook Fanpage ประมาณ 8 แสนราย และด้วยธุรกิจที่ขยายตัว Shopee เพิ่มบุคลากรเป็น 100 จาก 50 คน
- สำหรับเป้าหมายในปีนี้ Shopee จะเพิ่มผู้ใช้งานเป็น 4 ล้านราย และเพิ่มสินค้าเป็น 4 ล้านชิ้น พร้อมกับขยายธุรกิจไปที่หัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ และเพิ่มจำนวนบุคลากรเป็น 200 ราย และทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล ใครชอบซื้ออะไรเข้ามาในเว็บหรือแอพ จะเจอสินค้านั้นก่อน
- เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ Shopee ยังคงรักษาจุดเด่นคือ ลดราคาสินค้าประมาณ 10% และมีบริการส่งฟรี โดยการส่งฟรีจะมีให้ถึง ส.ค. 59
บทวิเคราะห์
การแข่งขันในตลาด e-Marketplace ในประเทศไทยกำลังดุเดือดเลือดพล่านมาก มีผู้ให้บริการหน้าเดิมที่แข็งแกร่งและเงินทุนหนา เช่น tarad.com, weloveshopping.com, inwshop.com และยังมีรายใหม่ๆ ที่มาแรงและถูกซื้อโดยต่างประเทศ เช่น Lazada ที่ซื้อไปโดย Alibaba ซึ่งจากทัศนะของกูรูหลายราย ระบุตรงกันว่า ตลาดนี้คือ โอกาสที่ดีของผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะ ผู้ให้บริการ e-Marketplace จะทำตลาด โดย Subsidize ทั้งการลดราคา และการส่งฟรี
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อมี ผู้ให้บริการรายแรกเริ่มต้นทำตลาดและอุดหนุนผู้ซื้อผู้ขาย อนาคตจะมีรายใหม่มาทำในลักษณะเดียวกัน เพื่อหวังสร้างฐานลูกค้าและฐานร้านค้าให้มากที่สุด นั่นก็คือการเผาเงินทำตลาดเพื่อหวังผลในอนาคต วัดพลังกัน ใครที่งบหนากว่าก็อยู่รอดได้ ดังนั้น การลดราคา และให้บริการส่งฟรี เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการ e-Marketplace รายใดก็สามารถทำได้
และหัวใจสำคัญอีกประการของ e-Commerce คือ การสร้างคนเข้ามาซื้อซ้ำ ดังนั้น Shopee จะอยู่รอดได้หรือไม่ จะสร้างฐานลูกค้าที่มาซื้อซ้ำ เพื่อให้มีรายได้ในอนาคต นอกจากต้องมีสายป่านยาวในการทำตลาด ต้องสร้างตลาดเฉพาะของตัวเองขึ้นมา ไม่เช่นนั้น แม้ว่า Shopee จะดำเนินงานโดย Garena แต่ก็ใช่ว่าจะสู้ศึกครั้งนี้ได้ง่าย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา