เชลล์ ส่งกลยุทธ์เพิ่มพื้นที่ร้านค้าในสถานีบริการน้ำมันกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ ช่วยดึงลูกค้า พร้อมสร้างรายได้ใหม่ให้ผู้ลงทุนสถานีบริการน้ำมัน หวังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในแต่ละพื้นที่ แบ่งสัดส่วนร้านค้าเป็น Food 55% และ Non-Food 45% เสริมแกร่งฐานลูกค้าสมาชิก Shell GO+ 3.4 ล้านคน
เชลล์ เร่งเครื่องร้านค้าในสถานีบริการน้ำมัน
อรอุทัย ณ เชียงใหม่ รองประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค หันมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น โดยเลือกใช้เวลากับการจับจ่ายสินค้า และบริการย่านชานเมือง มากกว่าการเดินทางเข้าไปในตัวเมือง ตามการขยายตัวของที่อยู่อาศัยในแนวระนาบ
ทำให้ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย กลุ่มธุรกิจโมบิลลิตี้ของเชลล์จึงปรับกลยุทธ์เพื่อต่อยอดให้สถานีบริการน้ำมันเชลล์เป็นแลนด์มาร์กที่ดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการเข้ามาเติมน้ำมัน หรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
จุดนี้เอง เชลล์ จึงส่งกลยุทธ์ Tenant Mix ที่จะเพิ่มพื้นที่ร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมันกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ โดยร้านค้าในสถานีบริการน้ำมันจะแบ่งเป็น Food หรือร้านอาหาร 55% และ Non-Food หรือที่ไม่ใช่ร้านอาหาร 45% โดยตัวร้านจะไม่มีความทับซ้อน และเพิ่มโอกาสรายได้ให้ธุรกิจท้องถิ่น กับผู้ลงทุนสถานีบริการน้ำมัน เชลล์
ปัจจุบัน เชลล์ มีบริการที่นอกเหนือจากการเติมน้ำมัน เช่น ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง Shell Helix Oil Change+ ที่มี 436 แห่ง ร้านกาแฟเชลล์ คาเฟ่ และเดลี่ คาเฟ่กว่า 300 สาขา ร้านสะดวกซื้อ เชลล์ ซีเล็คกว่า 180 สาขา ซึ่งการเพิ่มพื้นที่ร้านค้าจะมีร้านจากท้องถิ่น และร้านค้าที่สนใจมาให้บริการควบคู่กับร้านข้างต้น
สำหรับฐานลูกค้าสมาชิกของ เชลล์ จะประกอบด้วย Shell GO+ กว่า 3.4 ล้านคน และลูกค้า Shell Card สำหรับลูกค้าองค์กรซึ่งมีผู้ถือบัตรมากกว่า 1 แสนใบ ซึ่งจุดนี้ช่วยสร้างโอกาสร้านค้าที่เข้ามาเปิดในสถานีบริการตามกลยุทธ์ Tenant Mix ให้เติบโตไปกับ เชลล์ ได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา