Shake Shack แบรนด์เบอร์เกอร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก เดินหน้าสร้างปรากฎการณ์ความอร่อยด้วยรสชาติอาหารไทยครั้งแรก เปิดตัวกลยุทธ์ Collaborative Marketing จับมือเชฟแพม พิชญา สุนทรญาณกิจ เจ้าของร้าน POTONG ผู้คว้ารางวัล The World’s Best Female Chef 2025 คนแรกจากเอเชีย รังสรรค์ 4 เมนูพิเศษที่ได้แรงบรรดาลใจจากสตรีทฟู้ดไทยและของหวานไทยที่ขึ้นชื่อดังระดับโลก จัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 2 เดือนเท่านั้น ที่ Shake Shack ทุกสาขาในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม ถึง 6 กรกฎาคม 2568
เชฟแพม POTONG พาร์ตเนอร์ที่เหมาะสมที่สุดในแคมเปญนี้
เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ เชฟชาวไทย-จีน-ออสเตรเลีย ที่ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์อาหารและเป็นเจ้าของร้านอาหาร POTONG ที่การันตีด้วยดาวมิชลิน สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นเชฟคนแรกของเอเชียและของไทยที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ The World’s Best Female Chef 2025 หรือเชฟหญิงยอดเยี่ยมระดับโลกประจำปี 2025 ด้วยความสามารถและรางวัลการันตี ทำให้ เชฟแพม เหมาะสมที่สุดกับการเป็นพาร์ตเนอร์กับการร่วมมือเป็นครั้งแรกของ Shake Shack ประเทศไทย
เชฟแพมได้แบ่งปันความคิดเห็นของเธอเกี่ยวกับแคมเปญอันน่าตื่นเต้นครั้งนี้ว่า “ที่ร้าน POTONG แพมจะคิดค้นเมนูเพื่อนำเสนอรสชาติอันซับซ้อนและลุ่มลึกของอาหารไทยและอาหารจีนอยู่เสมอ โดยได้มีการนำเมนูดั้งเดิมต่าง ๆ มาตีความใหม่ให้มีคุณค่าในรูปแบบของตัวเอง การร่วมมือกับ Shake Shack ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่แพมจะได้นำปรัชญาในการทำงานอย่างการเชิดชูเมนูดั้งเดิมไปพร้อมๆ กับการผลักดันให้เมนูเหล่านี้ก้าวไปข้างหน้า มาออกแบบเป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เข้าถึงง่ายและเป็นกันเองมากขึ้น และ Shake Shack ถือเป็นพาร์ทเนอร์ที่สมบูรณ์แบบในการร่วมมือกันครั้งนี้ เพราะเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์และสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพมให้ความสำคัญในกระบวนการการทำอาหารของแพมด้วยเช่นกัน การร่วมมือกันครั้งนี้แพมต้องการที่จะเน้นย้ำว่าอาหารไทยไม่ใช่แค่อาหารรสเผ็ด แต่เป็นอาหารที่มีความกลมกล่อม ความซับซ้อน และความลุ่มลึกที่น่าค้นหา และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การร่วมงานครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเติมกลิ่นอายไทยๆ ลงในเบอร์เกอร์ แต่มันคือการเล่าเรื่องราวการส่งต่อความสนุกสนานและเสน่ห์ของวัฒนธรรมอาหารไทยในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย กล้าที่จะนำเสนอ และอร่อยอย่างลงตัว”
ยอดจำหน่ายของเมนู Taste of Thailand ในวันแรกของยอดขายสุทธิ ทาง Shake Shack บริจาค 5% ให้กับโครงการ POTONG’s WFW Scholarship (Women For Women) ซึ่งส่งเสริมและสนับสนุนเชฟหญิงไทยรุ่นใหม่ให้พัฒนาทักษะและความรู้ในวงการอาหาร ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำคัญกับเชฟแพมด้วยเหตุผลหลายประการ โดยโครงการ WFW Scholarship and Internships จะมอบการสนับสนุนทางการเงินและจัดโปรแกรมให้คำปรึกษาแบบลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเชฟผู้หญิงรุ่นใหม่เหล่านี้จะมีความรู้ความสามารถติดตัวเพื่อต่อยอดจนประสบความสำเร็จในครัวระดับมืออาชีพได้
Taste of Thailand สู่เมนูเด็ดยกระดับอาหารไทยสู่ระดับโลก
สำหรับเมนูพิเศษที่รังสรรค์โดย เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ ที่จะพาคนไทยได้ลิ้มลอง เป็นการผสานเมนูหลักของ Shake Shack ที่เป็นเบอร์เกอร์และเชคระดับพรีเมียม และนำความคิดสร้างสรรค์ด้านอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ผสานเข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสูง ให้เป็นเมนูพรีเมียมให้เหนือชั้นมากกว่าเคย และคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมของอาหารไทยที่ทุกคนคุ้นเคย
- เบอร์เกอร์หมูแจ่วบาร์บีคิว ถือเป็นเมนูหมูครั้งแรกของโลก ชีสเบอร์เกอร์หมูพร้อมซอสแจ่วบาร์บีคิวรสแซ่บจัดจ้านสูตรเฉพาะของเชฟแพม และ ShackSauce เสิร์ฟพร้อมผักชีฝรั่งสด หอมแดงสด และแคบหมู บนขนมปังมันฝรั่ง ราคา 235 บาท
- เบอร์เกอร์เนื้อฉ่ำพริกไทยดำ เบอร์เกอร์เนื้อและชีส 2 แผ่น พร้อมซอสพริกไทยดำสูตรเฉพาะของเชฟแพม หอมหัวใหญ่สด และหอมทอดกรอบ บนขนมปังมันฝรั่ง ราคา 265 บาท (ซิงเกิ้ล) และ 375 บาท (ดับเบิ้ล)
- มันทอดซอสซี๊ด มันฝรั่งทอด พร้อมซอสซีฟู้ดมายองเนสสูตรเฉพาะของเชฟแพม โรยด้วยแคบหมูและผักชีสด ราคา 130 บาท
- ข้าวเหนียวมะม่วงมิลค์เชค ไอศกรีมคัสตาร์ดวานิลลาปั่นพร้อมเนื้อมะม่วง ข้าวเหนียวมูน และครีมมะพร้าว เสิร์ฟพร้อมวิปครีม ถั่วทองทอดกรอบ และผงมะม่วง ราคา 210 บาท
คอลแลบที่ดี ต้องมากกว่าแค่มีรูปคู่
สิ่งที่ Shake Shack ร่วมมือทำกับเชฟแพมนั้น ไม่ใช่ประเทศไทยเป็นที่แรก แต่เป็นสิ่งที่ Shake Shack มองข้ามช็อตคือการวางแผนคอลแลบให้มากกว่าการแค่ใช้ชื่อเสียงของเชฟแพมเพื่อโปรโมตเมนู แต่เป็นการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่มีเป้าหมายร่วมกัน ทั้งในแง่ แบรนด์, ผู้บริโภค และ สังคม ที่จะสามารถสร้างความจดจำให้อยู่ในใจผู้บริโภคชาวไทยได้
นี่จึงไม่ใช่เพียงการทำแคมเปญระยะสั้นเพื่อสร้างยอดขาย แต่คือการวางรากฐาน “Positioning” ของแบรนด์ในตลาดไทยในระยะยาว ว่า Shake Shack ไม่ใช่แค่เบอร์เกอร์จากอเมริกา แต่เป็นแบรนด์ที่ “เข้าใจ” และ “ปรับตัว” กับวัฒนธรรมอาหารในแต่ละประเทศได้อย่างแนบเนียน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา