อยู่คู่คนไทย แต่ไม่อยากแก่ ‘ชาบูชิ’ ปรับแบรนด์ครั้งใหญ่ จับใจ Gen Z ด้วย ‘สกาย-นานิ’

คุณคิดว่า ‘ชาบูชิ’ อยู่คู่คนไทยมานานกี่ปีแล้ว?

Shabushi

ชาบูชิ เป็นร้านชาบู-ชาบูและซูชิของบริษัทโออิชิ โฮลดิ้ง จำกัดที่ยืนหยัดมานานกว่า 20 ปี ด้วยสาขาประมาณ 200 แห่งทั่วประเทศ แถมยังสร้างรายได้ให้กับเครือถึง 80%

อย่างไรก็ตาม ‘ไพศาล อ่าวสถาพร’ ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ยุคนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเร็วมาก และสิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือการ “เข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภค” โดยเฉพาะ Gen Z

ด้วยเหตุนี้ ชาบูชิจึงขอรีเฟรชแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 20 กว่าปี ผ่านการเปิดตัวแคมเปญ ‘ชาบูชิ x สกาย-นานิ: ALL YOU CAN กรี๊ด ฟินสุดกรี๊ด ยิ่งอีทยิ่งฟิน’

รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกัน

ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่คือพื้นที่สร้างความสัมพันธ์

‘ศสัย ตังเดชะหิรัญ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด เชื่อว่า แม้ชาบูชิจะอยู่คู่คนไทยมานาน แต่ไม่ได้แปลว่าต้องแก่ เพราะการอยู่มานานนั้น หมายถึงการเติบโตและพัฒนาพร้อมลูกค้าต่างหาก 

จริงๆ แล้ว ชาบูชิตั้งใจเจาะตลาดคนรุ่นใหม่มาตั้งแต่แรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าก็เติบโตขึ้น จนถึงวันที่ Gen Z กลายเป็นผู้บริโภคกลุ่มสำคัญในการสร้างแบรนด์แห่งอนาคต

จากการสำรวจคนรุ่นใหม่ ชาบูชิพบว่า หลายคนยังจำแบรนด์นี้ได้ เพราะเติบโตมากับการที่พ่อแม่พาไปทานสมัยเด็ก ซึ่งปัจจุบันอาจหลงลืมไปบ้าง แต่ก็ยินดีกลับมาลอง หากมีอะไรใหม่ๆ เข้ามา

ดังนั้น ชาบูชิจึงตั้งใจปรับภาพลักษณ์แบรนด์ โดยยึดหลักว่า จะไม่เป็นแค่ร้านอาหาร แต่คือพื้นที่ของความสัมพันธ์และการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ตามคอนเซปต์ ‘Good Taste Great Time Never End’ หรือ ‘รสชาติความสุขไม่มีที่สิ้นสุด’

โดยถ้าอยากปรับโฉมแบรนด์ให้เข้ากับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ศสัยบอกว่า การเลือก ‘สกาย-วงศ์รวี นทีธร’ และ ‘นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ’ มาเป็นพรีเซนเตอร์จึงตอบโจทย์นี้ เนื่องจากทั้งคู่เป็นตัวแทนของความสดใส มิตรภาพ พร้อมพลังบวก ซึ่งจะช่วยยกระดับแบรนด์ให้เข้าถึงง่าย เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นและแฟนคลับที่มีอิทธิพลต่อเทรนด์บนโซเชียล

นอกจากนั้น ตัวตนของสกาย-นานิยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของชาบูชิ ที่มีความแตกต่างอย่างลงตัว เหมือนกับชาบู-ซูชิ ซึ่งทั้งคู่ก็ได้มาร่วมออกแบบ ‘น้ำซุป’ เป็นของตนเองด้วย

ยกทัพเมนูใหม่พร้อมเซอร์ไพรส์มากมาย

Shabushi

แน่นอนว่า รีเฟรชแบรนด์ทั้งที ชาบูชิต้องเล่นใหญ่อีก โดยศสัยเล่าว่า จะต่อยอดประสบการณ์ลูกค้าที่เชื่อมโยงทั้งอารมณ์และความฟิน ผ่าน 3 แกนสำคัญได้แก่

  1. คุณภาพ (Shabushi ALL-STAR SERIES): ขนทัพเมนูชาบูสุดพรีเมียม พร้อมวัตถุดิบคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสถึงความใส่ใจ ความคุ้มค่า และความอร่อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาชาบูชิก็เปิดตัวเมนูใหม่ๆ มาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเนื้อออสเตรเลียหรือแซลมอน โดยครั้งนี้จะมีอะไรใหม่บนสายพานบ้างนั้น ศสัยบอกว่า รอติดตามได้เลย
  1. ความสร้างสรรค์ (Shabushi SUSHI-MASTER SERIES): ยกระดับประสบการณ์ซูชิ ด้วยเมนูที่รังสรรค์ขึ้นมาโดยเชฟรุ่นใหม่มืออาชีพ ซึ่งศสัยต้องการให้ลูกค้าเห็นซูชิแล้วรู้สึกว้าว รับรู้ถึงการเปลี่ยนไปจากซูชิแบบเดิมๆ
  1. โมเมนต์ดีๆ (Shabushi Great Moment): เพิ่มความประทับใจด้วยบริการที่อบอุ่นและกิจกรรมที่สร้างโมเมนต์สนุกอย่างต่อเนื่อง โดยศสัยแอบใบ้ว่า อาจมีรางวัลใหญ่ไหลมาบนสายพาน แต่จะเป็นอะไรนั้น ต้องขออุบไว้ก่อน

แคมเปญนี้เป็นการตอกย้ำ ‘ความคุ้มค่า’ ที่ชาบูชิยึดถือตลอดมา โดยบริษัทเชื่อว่า ความคุ้มค่าคือคุณภาพ ความหลากหลาย และบริการ หารด้วยราคา ซึ่งศสัยบอกว่า แบรนด์ไม่อยากให้ลูกค้าทานแล้วแค่อิ่ม แต่ต้องได้ของที่ดี รวมถึงไลน์อาหารที่หลากหลาย ทั้งเทมปุระและซูชิ พร้อมกับพนักงานที่ได้มาตรฐานด้วย

ชาบูชิหวังว่า แคมเปญนี้จะปลุกกระแสและสร้างสีสันให้ตลาดร้านอาหารกลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าสู่การเป็นแบรนด์ ‘Top of Mind’ ที่หมายความว่า เมื่อนึกถึงชาบูและซูชิ ก็ขอให้ชาบูชิเป็นชื่อแรกในใจทุกคน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา