โบรกฯ มองหุ้นไทยมีทิศทางบวก หลังยืนที่ระดับ 1,545 จุด จับตาตลาดหุ้นโลกฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุว่า วันนี้ (15 ก.ย.) คาดการณ์ว่า SET Index น่าจะเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางปรับขึ้นโดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,542 –1,558 จุด โดยที่จะมีแนวต้านในระดับถัดไปที่บริเวณ 1,570 –1,580 จุด

ทั้งนี้ ทิศทางตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index ปรับตัวดูดีขึ้น โดยดีดตัวกลับขึ้นมายืนบริเวณ 1,545 จุดได้ พร้อมแรงซื้อสุทธิ และการเปิด long Future ของนักลงทุนต่างชาติ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก จึงมีโอกาสที่จะเห็น Momentum เหวี่ยงขึ้นต่อของ SET Index 

ในภาพรวมตลาดหุ้นเข้าสู่โหมด Risk-on เปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น (ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดตัวเพิ่มขึ้น 0.8-1.4% ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 1%) หลังจากมีปัจจับบวกในหลายประเทศ ซึ่งทำให้มีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรปยังสามารถขยายตัวได้ อีกทั้ง ทางธนาคารกลางของจีน PBOC ยังประกาศปรับลด RRR เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการปล่อยสินเชื่อ

ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยยังคงมีประเด็นขับเคลื่อนหลักจากความคาดหวังเชิงบวก โดยเฉพาะจากแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และ ปิโตรเคมี 

นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังเชิงบวกจากการที่เศรษฐกิจจีน ค่อยๆ ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่ต้องจับตาด้วยความระมัดระวัง คือ Bond Yield ที่ดีดตัวสูงขึ้น โดยล่าสุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตร หรือ Bond Yield ที่อายุ 10 ปี ปรับขึ้นไปใกล้ 3% ส่วน Bond Yield อายุ 1 ปี ปรับขึ้นไปสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งหากยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไปอาจกดดัน Valuaion ของ SET Index

อย่างไรก็ตามในระยะสั้นยังมีปัจจัยแวดล้อมรอบด้านที่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย โดยฝ่ายวิจัยเชื่อว่า มีหุ้นเด่นทั้ง 3 ธีมที่มีโอกาส Outperform ตลาดได้ดีในช่วงนี้  ได้แก่

  1. การกระตุ้นเศรษฐกิจจีนต่อเนื่อง และล่าสุด PBOC ลด RRR ลงครั้งที่ 2 ของ ปี อีก 0.25% สู่ 7.4% ซึ่งจีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยมีสัดส่วนการค้าใน 7 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 18% มากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ประเด็น ดังกล่าวถือว่าดีต่อหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ในจีน อย่าง SCGP, PTTGC, IVL 
  2. ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สูงสุดรอบ 10 เดือน และบวกแรง 25.6%QTD ขณะที่หุ้นพลังงานไทยหลายบริษัทยัง Laggard อยู่ มาก จึงแนะนำ PTTEP, TOP, SPRC 
  3. การเดินหน้าของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับตัวเลขความเชื่อมั่น ผู้บริโภคไทย (CCI) เดือน ส.ค. ออกมาที่ระดับ 56.9 สูงสุดในรอบ 14 เดือน จึงแนะนำ CPALL, CRC, CPAXT, BEM, ADVANC, TRUE, AOT, ERW 

ที่มา – บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

อ่านเพิ่มเติม

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา