ตลาดหลักทรัพย์เตรียมส่งอาวุธหนักอย่าง “ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง” หรือที่เรียกว่า DR ซึ่งจะทำให้บริษัทต่างประเทศสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยกับ Nikkei Asian Review ว่าตลาดหลักทรัพย์เตรียมที่ออกใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง หรือที่เรียกว่า DR เพื่อที่จะให้บริษัทต่างประเทศสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ ไม่ว่าจะเป็น SET หรือ MAI
สำหรับใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงจะทำหน้าที่เหมือนหุ้นจริงๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์หรือว่าธนาคารจะเป็นคนถือหุ้นจริงๆ ไว้ แต่จะออกใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงมาใช้แทน ซึ่งสิทธิประโยชน์ต่างๆ เหมือนการถือหุ้นแทบทุกประการ
สำหรับเครื่องมืออย่าง DR นี้ตลาดหลักทรัพย์จะเปิดใช้ในปลายปีนี้ และจะสามารถเพิ่มมูลค่าตลาดหลักทรัพย์ขึ้นไปสู่มูลค่าประมาณ 28 ล้านล้านบาทได้ภายในปี 2023
ตลาดหลักทรัพย์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มี DR
การที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ออกใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงมา ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยเป็นตลาดหลักทรัพย์รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการใช้เครื่องมือนี้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์นั้นจะใช้ ADR (American Depositary Receipts) แค่บางบริษัทเท่านั้น
ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเริ่มเห็นตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศปรับตัวเพื่อให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาระดมทุน หรือซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตัวเอง อย่างเช่นจีน ที่เริ่มแก้ไขกฏข้อระเบียบทำให้บริษัทจีนสามารถกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จีน โดยใช้ CDR ซึ่งเหมือนกับ DR ที่ไทยเช่นเดียวกัน
เน้นบริษัทรอบๆ CLMV
สำหรับการออก DR มานั้นจะเน้นบริษัทรอบๆ ประเทศไทยอย่างประเทศกลุ่ม CLMV อย่าง พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา ให้เข้ามาทำ DR แล้วซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น เราอาจได้เห็นบริษัทเอกชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม แล้วทำ DR แล้วมาซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข้อได้เปรียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคือ สภาพคล่องที่ค่อนข้างสูง และยังมีมูลค่าตลาดใหญ่กว่าตลาดหลักทรัพย์เพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV ทำให้บริษัทเอกชนต่างๆ ในละแวกนี้สามารถระดมทุนเพิ่มได้มากขึ้น
เขายังกล่าวเสริมว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนในการที่จะทำไอเดียนี้ให้เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งถ้าหากจะต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์โตขึ้น หรือว่าโดนใจบริษัทเอกชนที่ต้องการเข้าสู่ตลาด ก็จะต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจด้วย
สรุป
การที่ตลาดหลักทรัพย์ออก DR มาไม่ใช่เพียงแค่ประโยชน์ให้บริษัทเพื่อนบ้านเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ต่อไปในอนาคตถ้าหากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกสนใจที่จะระดมทุนในภูมิภาคนี้ก็อาจสนใจใช้ DR มาเพื่อระดมทุน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหาก Alibaba หรือ Tencent สนใจอยากจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยก็อาจใช้เครื่องมือนี้ได้เช่นกัน หรือแม้แต่เครือไทยเบฟก็สามารถกลับมาซื้อขายในไทยได้เช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้วหลังจากตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ประกาศใช้ DR อย่างเป็นทางการแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทเอกชนละแวก CLMV หรือว่าบริษัททั่วโลกสนใจตลาดหลักทรัพย์ไทยมากน้อยแค่ไหน และสิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือตลาดหลักทรัพย์ประเทศอื่นๆ ในละแวกนี้ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา