มาแรงจริงๆ สำหรับบทบาท ก.ล.ต. ช่วงนี้! ล่าสุดลงดาบอีก กรณีขายหุ้นใน TRUE โดยอาศัยข้อมูลภายใน
ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบพบการกระทำเข้าข่ายความผิดของนพปฎล เดชอุดม ขณะดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริหาร TRUE ได้ขายหุ้น TRUE โดยอาศัยข้อมูลภายใน
โดยล่วงรู้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับ TRUE จากการได้รับมอบหมายให้จัดทำสารสนเทศเพื่อเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ได้แก่
(1) เรื่องที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติให้บริษัท ทรูมูฟ จำกัด (True Move) บริษัทย่อยของ TRUE นำส่งเงินรายได้ในช่วงคุ้มครองผู้ใช้บริการนับตั้งแต่วันที่เข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวตามประกาศ กสทช. จำนวน 3,381.95 ล้านบาท
(2) เรื่องที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดให้ TRUE ชำระเงินค่าผิดสัญญาให้แก่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) รวม 94,474.27 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จ ซึ่งข้อเท็จจริงทั้งสองเรื่องดังกล่าวเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหรือมูลค่าของหุ้น TRUE ภายหลังจากที่นพปฏลล่วงรู้ข้อมูลภายในดังกล่าว ได้ขายหุ้น TRUE จำนวน 2 ล้านหุ้น ในวันที่ 5 กันยายน 2561 เพื่อหลีกเลี่ยงผลขาดทุน ก่อนที่ TRUE เปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 5 กันยายน 2561 เวลา 19.25 น.
การกระทำของนพปฎลเป็นความผิดฐานขายหุ้น TRUE โดยอาศัยข้อมูลภายใน ตามมาตรา 242 ซึ่งมีบกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้ นพปฎลต้องชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,705,470 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 12 เดือนนับตั้งแต่วันที่ลงนามในบันทึกการยินยมปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว ส่วนเงินค่าปรับและค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ดังกล่าวจเป็นรายได้แผ่นดิน นำส่งกระทรวงการคลัง
ที่มา – SEC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา