ก.ล.ต. ลงดาบ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หลังปล่อยข่าวนำเข้าวัคซีน mRNA มีผลต่อราคาหุ้น

ถ้าเรายังจำกันได้ นายแพทย์บุญหรือหมอบุญคือหมอรายแรกๆ ที่ออกมาเปิดเผยการทำงานของรัฐบาลเรื่องนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิดล่าช้าและบอกว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าว ไปจนถึงการพูดเรื่องวัคซีนและจะนำเข้าวัคซีนชนิด mRNA ด้วยตนเอง ซึ่งในที่สุดแล้วทางบริษัทผลิตวัคซีนก็ยืนยันชัดเจนว่าต้องทำสัญญากับรัฐบาลเท่านั้นเพราะผลกระทบที่ต้องแบกรับคือชีวิตประชาชนจำนวนมหาศาล ดังนั้นการทำสัญญาต้องเป็นภาครัฐเท่านั้น สุดท้ายหมอบุญไม่สามารถนำเข้าวัคซีนได้ และ ก.ล.ต. มองว่าการปล่อยข้อมูลดังกล่าวส่งผลต่อราคาหุ้น

THG

ก.ล.ต. ระบุว่า จากที่ก่อนหน้านี้ มีการให้ข้อมูลของนายแพทย์บุญ วนาสิน ตามสื่อหลายแหล่งว่า THG จะลงนามในสัญญาซื้อขายและนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด ชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer โดยจะรับมอบวัคซีนล็อตแรก 5 ล้านโดสภายในกรกฎาคม 2564 และมีผู้ขอให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบการให้ข่าวที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย

รวมทั้งได้รับแจ้งเหตุสงสัยจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า นายแพทย์บุญ อาจบอกกล่าวหรือแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสกคัญที่อาจทำให้มีผลกระทบต่อราคาหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น THG อันอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ)

จากการตรวจสอบพบว่า 12 กรกฎาคม 2564 ถึง 4 สิงหาคม 2564 นายแพทย์บุญซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจของ THG ได้บอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความต่อสื่อหลายแห่งทั้งโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ ถึงการนำเข้าวัคซีนชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer โดยจะรับมอบ 5 ล้านโดสแรกภายในกรกฎาคม 2564 แต่ไม่ปรากฎว่า THG ได้ลงนามในสัญญาดังกล่าวจริง แม้เดือนสิงหาคม 2564 นายแพทย์บุญยังคงยืนยันเช่นนั้น และยอมรับผ่านสื่อในเวลาต่อมาว่าไม่สามารถนำเข้าวัคซีนดังกล่าวได้

ข้อความดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนและผู้ลงทุนเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือข้อมูลอื่น การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคสอง และมาตรา 296/2 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติลงโทษดังนี้

ให้ปรับนายแพทย์บุญ ให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติคือ 2 ล้านบาท (2,000,000 บาท) และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากตรวจสอบการกระทำผิดรวมเป็นเงินจำนวน 2.3 ล้านบาท (2,348,834 บาท) และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน

โดยกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษที่ ค.ม.พ. กำหนด ส่วนรายได้จากค่าปรับทางแพ่งและเงินชดใช้คืนจะเป็นรายได้แผ่นดินนำส่งกระทรวงการคลัง

ด้านนายแพทย์บุญ วนาสิน ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและประธานของบริษัทแล้ว มีผล 26 สิงหาคม 2565 โดยที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งจารุวรรณ วนาสิน ภรรยาของนายแพทย์บุญซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมตามที่ ก.ล.ต. กำหนดให้ขึ้นเป็นกรรมการทดแทนและเป็นประธาน มีผลวันที่ 27 สิงหาคม 2565

ที่มา – SEC, THG, YouTube, BrandInside (1), (2), BBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา