เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยที่ทำ “น้ำพริกทูน่า”
จากแบรนด์ปลากระป๋องที่คนไทยคุ้นเคย วันนี้ SEALECT เปิดตัวไลน์สินค้าใหม่ บุกตลาดน้ำพริกเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพและต้องการความสะดวกสบาย
โดยในปัจจุบันถือเป็นแบรนด์ปลากระป๋องเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาดที่ลงมาแข่งขันในตลาดน้ำพริกทูน่า โดยปรับเอาวัตถุดิบหลักอย่าง “ปลาทูน่า” มาทำเป็นน้ำพริก
ล่าสุด ส่งสินค้าใหม่ออกมา 2 รายการได้แก่
- น้ำพริกทูน่า
- น้ำพริกผัดทูน่า
จับกระแสคนเมืองรักสุขภาพ มัดใจด้วยสินค้าที่ตอบโจทย์
ใครๆ ก็ทราบดีกว่า แบรนด์ซีเล็คทูน่าขึ้นชื่อเรื่องการคัดสรรปลาทูน่าเกรดดีอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อนำเนื้อปลาทูน่ามาทำน้ำพริกให้ถูกปากคนไทยก็น่าจะทำให้สินค้าได้รับความนิยมได้ไม่ยาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กลุ่มคนเมือง” ที่ใช้เวลาไปกับการทำงานและเดินทางเสียส่วนใหญ่จนไม่มีเวลาปรุงอาหารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพกินเอง หรืออาจไม่มีเวลาออกกำลังกายมากพอ น้ำพริกซีเล็คทูน่าจึงตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ดี
เพราะกินง่าย เปิดกระป๋องกินคู่กับข้าวสวย ผักสดได้ทันที
ไม่หมดแค่นั้น น้ำพริกซีเล็คทูน่ายังชูจุดเด่นเรื่องคุณค่าทางอาหาร อุดมไปด้วยสารอาหาร มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และโอเมก้า 3 และไม่มีสารกันบูด
เรียกได้ว่า ทลายกำแพงความคิดที่ว่าอาหารกระป๋องส่งผลเสียต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของของน้ำพริกซีเล็คทูน่าทั้งสองสูตรนอกจากปลาทูน่าเนื้อดีแล้ว ยังปรุงด้วยเครื่องน้ำพริกเยอะเพื่อให้ถูกใจสายน้ำพริกที่ต้องการความจัดจ้าน โดยน้ำพริกทูน่ากระป๋องเขียวมีจุดเด่นที่รสชาติคล้ายปลาทูสด เผ็ดกำลังดี เปรี้ยวเล็กน้อยและหวานติดปลายลิ้น ส่วนน้ำพริกผัดทูน่ากระป๋องสีเหลืองมีจุดเด่นที่มีรสเผ็ดจัดจ้าน เค็มเล็กน้อย ต่างจากน้ำพริกผัดทั่วไปที่รสชาติมักออกหวานนำ และยังนำไปทำอาหารได้หลากหลายนอกจากกินกับข้าวสวยร้อนๆ แล้ว ยังนำไปทาขนมปัง, ยัดไส้แซนด์วิช, ผัดกับข้าวหรือสปาเกตตีได้
สรุป
กลายเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ SEALECT กระโดดลงมาเล่นในตลาดน้ำพริก เพราะนอกจากจะเป็นการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาสร้างกระแสให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองที่รักสุขภาพอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สามารถหาซื้อซีเล็ค น้ำพริกทูน่ากระป๋องเขียวราคา 27 บาท น้ำหนัก 85 กรัม และ ซีเล็ค น้ำพริกผัดราคา 27 บาท น้ำหนัก 95 กรัม สามารถหาซื้อได้แล้วที่ 7-11 ทุกสาขา, Tesco Lotus, Tops, Foodland และซุปเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วไป
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา