เปิดแผน SCG ปี 62 ฝ่าวิกฤตรายได้จากยอดขายและกำไรไตรมาส 1 หดตัว

SCG หรือ ปูนซิเมนต์ไทย บริษัทยักษ์ใหญ่ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี มาดูกันดีกว่าทำไมไตรมาส 1 ของปี 2562 รายได้และกำไรหดตัว  SCG จะแก้เกมส์อย่างไร?

SCG

โลกอยู่ยาก! ไตรมาส 1 ปี 62  SCG รายได้ฯ -กำไรโตติดลบ

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี (SCG) บอกว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2562 ได้แก่ รายได้จากการขาย 112,379 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และ กำไรอยู่ที่ 11,662 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เพราะเพราะราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลงตามความต้องการของตลาดโลกที่ลดลง นอกจากนี้ธุรกิจแพคเกจจิ้งรายได้และกำไรยังหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ไตรมาส 1 ปี 2562 ธุรกิจเคมิคอลส์ถือเป็นสัดส่วนใหญ่ใน SCG โดยรายได้จากการขายอยู่ที่ 46,240 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากธุรกิจนี้อยู่ที่ 6,106 ล้านบาท ลดลง 25% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตามธุรกิจคือธุรกิจซีเมนต์และผลติภัณฑ์ก่อสร้าง รายได้ฯ และกำไรยังเติบโต โดยรายได้จากการขายอยู่ที่ 48,310 ล้านบาท เติบโต 4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรอยู่ที่ 3,040 ล้านบาท เติบโต 22% จากช่วงเวลาเดัยวกันของปีก่อน

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี (SCG)

เตรียมปรับเป้าหมายการเติบโตปี 2562

ปี 2562 ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 5-10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่จากสถานการณ์ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ คาดว่าจะปรับแผนงานและปรับเป้าหมายการเติบโตของบริษัท เนื่องจากระยะต่อไปมองว่าราคาสินค้าและ Demand (ความต้องการ) ในตลาดโลกยังไม่เติบโตอย่างที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันต้นทุนยังเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ผันผวน

ไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ ต้องเตรียมตัวเรื่องการตั้งสำรองการเกษียณอายุตามกฎหมายใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้ เป็นการตั้งสำรองครั้งเดียว 2,000 ล้านบาท (อาจจะกระทบให้กำไรลดลง) ไตรมาสนี้ตลาดในประเทศยังยิ่งเพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดเยอะ ส่วนต่างประเทศตลาดโลกได้รับผลกระทบจาก Trade War นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงในแต่ละธุรกิจ ได้แก่

  • ธุรกิจปิโตรเคมี – มาร์จิ้นอาจลดลงเพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
  • ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง – ความต้องการซีเมนต์ในตลาดยังเติบโต 2% จากปีก่อน นอกจากนี้หากรัฐบาลกระตุ้นโครงการขนาดใหญ่จะทำให้ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างเติบโตขึ้น
  • ธุรกิจแพคเกจจิ้ง – คาดว่าจะทรงตัว ทำให้บริษัทฯ ต้องหารายได้จากการเพิ่มบริการและ Solutions ใหม่

“ปีนี้มีความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น ความต้องการตลาดโลกลดลง ทำให้ราคาขายสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ลดลง รวมถึงมีความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ผันผวนทำให้ต้นทุนสูงขึ้น สิ่งที่เรากลัวคือสถานการณ์เหมือนปลายปี 2561  ที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปรับลดลงเหลือ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอนนี้ค่าน้ำมันอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากต้นปีที่อยู่ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล”

ทั้งนี้กลยุทธ์ปี 2562 จะเน้นเพิ่มมูลค่าในบริการ และสินค้าต่างๆ ทั้ง 4 ธุรกิจ เข่น การ Solutions ด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร จับมือกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจค้าปลีก ฯลฯ

อย่างไรก็ตามปี 2562 ยังคงงบการลงทุนที่ 60,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่โปรเจคเจรจาเรียบร้อยแล้วจึงจะลงทุนตามแผนที่วางไว้ ปัจจุบันมีการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ โครงการ Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ปัจจุบันมีความคืบหน้า 10% ในเวียดนาม และการลงทุนในฟิลิปปินส์

สรุป

บริษัทขนาดใหญ่ต้องทำการค้ากับต่างประเทศ ความเสี่ยงด้านรายได้ และกำไรของบริษัทเลยขึ้นอยู่กับหลายอย่าง เช่น อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมันที่ผันผวน ฯลฯ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา