จีดีพีไทยและจีดีพีโลกที่โตชะลอตัวลง ยังมีปัญหาการเมืองระหว่างประเทศเกิดขึ้นทั่วโลก แต่บล.ไทยพาณิชย์ให้มุมมองต่างออกไปว่าปีนี้หุ้นไทยมีโอกาสแตะ 2,000 จุด เพราะอะไร?
หุ้นไทยปี 2562 คาดดัชนีแตะ 2,000 จุด จาก 2 ปัจจัยบวก
พรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) บอกว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวจากไตรมาส 4 ปี 2561 ทั้งการลงทุน การบริโภคในประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยว สอดคล้องกับการขยับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไทยที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.75%
ปี 2562 มองว่าไตรมาส 1 ปี ตลาดหุ้นไทยจะพุ่งสูง มองว่าเป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 2,000 จุด ดังนั้นปี 2562 เศรษฐกิจไทยได้รับผลดีจากวัฏจักรการลงทุนขาขึ้น เห็นได้จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในประเทศฟื้นตัวดีส่งผลให้กลุ่มธนาคารดีขึ้นไปด้วย ปีนี้คาดว่าดอกเบี้ยไทยน่าจะขยับขึ้นอีก 1-3 ครั้ง ตามมุมมองวัฏจักรการลงทุนและดอกเบี้ยขาขึ้น
โดย 2 ปัจจัยบวกปีนี้คือ 1. ผลดีต่อเนื่องจากก่อนหน้า เช่น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมีวัฎจักรการลงทุนรอบใหม่ อัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นทะลุ 70% เทรนด์ขาขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในกลุ่มธนาคาร และสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. 2. เทรนด์ใหม่ๆ เช่น เมื่อโลกกำลังจะเข้าสู่ภาวะ El Nino อ่อนๆ มักส่งผลดีต่อต้นทุนปลาทูน่าจะมีราคาถูกลงขณะที่ส่งผลให้ราคาหมูเพิ่มขึ้น
6 หุ้นเด่นไตรมาส 1 ปี 2562
ไตรมาสแรกปี 2562 หุ้น top picks กลุ่มที่น่าจับตามอง ได้แก่ กลุ่มธุรกิจหมูและธุรกิจทูน่า (CPF, TU) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (ROJNA, WHA) และ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB)
- CPF : บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
กำไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2561 โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาหมูที่สูงขึ้นในเวียดนามและไทย หุ้น CPF ซื้อขายในระดับต่ำที่มูลค่าตลาดของเงินลงทุนใน CPALL - TU : บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
กำไรจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2561 และปี 2562 จากต้นทุนทูน่าระดับต่ำ การปรับราคาผลิตภัณฑ์และเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐซึ่งยังไม่สะท้อนในราคาหุ้น - ROJNA : บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน)
บริษัทเร่งซื้อที่ดิน (โดยเฉพาะที่ดินในพื้นที่ EEC) เพื่อสร้างรากฐานสำหรับรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต valuation (PBV) น่าสนใจและให้ตอบแทนจากเงินปันผลสูง - WHA : บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
แนวโน้มเป็นบวกโดยได้รับปัจจัยหนุนจากพอร์ตคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูปขนาดใหญ่ ยอดขายรอรับรู้รายได้สูง กำไรใน 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ CAGR 16% - BBL : ธนาคารกรุงเทพ
สินเชื่อจะขยายตัวมากขึ้นและผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อจะดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากวัฎจักรการลงทุนมีโอกาสดีที่สุดที่ ROE จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับก่อนวัฎจักร NPL - KTB : ธนาคารกรุงไทย
การปรับพอร์ตสินเชื่อจะเปิดโอกาสให้ตั้งสำรองลดลง ได้ประโยชน์จากวัฎจักรการลงทุนที่เร่งตัวขึ้นและกำไรพิเศษจาก AQ
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีนี้ต้องจับตาเรื่องอะไรบ้าง?
ที่ผ่านมาสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกผ่านการพักฐาน (Correction ในระยะสั้น) เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาทั่วโลก สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน, ความไม่แน่นอนของข้อตกลง Brexit, และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่หลายฝ่ายมองว่าขึ้นมามากเกินไป
“ความกังวลเหล่านี้มีแนวโน้มดีขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยจีน–สหรัฐฯ จะมีการเจรจากันในต้นเดือน ม.ค. หลังจากสงบศึกการค้าไปก่อนหน้านี้ ส่วนสภาผู้แทนอังกฤษจะมีการลงมติเลือกแนวทาง Brexit ซึ่งจะทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่ Fed ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2562 ทั้งหมดนี้จะช่วยลดความกังวลต่อความเสี่ยงหลังๆ ลงได้มาก ทำให้ปัจจัยภายนอกที่กดดันตลาดเกิดใหม่ค่อยๆ คลี่คลายลง”
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกโตชะลอตัวลง แต่ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจ เพราะถือว่ากลับสู่การโตในค่าเฉลี่ยระยะยาว โดยเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐฯ ที่เคยโตโดดเด่นในปี 2561 จะลดความร้อนแรงลง คาดว่านักลงทุนเปลี่ยนมาสนใจตลาดเกิดใหม่ ส่วนสัญญาณการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ หยุดแข็งค่า ซึ่งดีต่อหุ้นตลาดเกิดใหม่ด้วย ทำให้เห็นกระแสเงินทุนไหลมาตลาดเกิดใหม่มากขึ้นด้วย
สรุป
แม้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะโตชะลอตัว แต่บล.ไทยพาณิชย์ยังมองว่าปีนี้ไตรมาส 1 ปี 2562 หุ้นไทยจะเริ่มโตแรง เพราะได้รับผลดีจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้เงินไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นผลดีกับไทยที่การลงทุน การบริโภคในประเทศยังโตต่อเนื่องแต่จะดีจริงไหมต้องจับตาดู
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา