ความเคลื่อนไหวที่ถูกจับตามองมากที่สุดในวงการการเงินการธนาคาร ปี 64 ที่ผ่านมาคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB จัดตั้งยานแม่ SCB X ขึ้นมา และมีบริษัทในเครือเกิดขึ้นอีกมากมาย แยกไปตามธุรกิจที่แตกต่างกัน หนึ่งในนั้นคือ บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด (SCB TechX) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
SCB TechX ภายใต้การนำของ ตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กับภารกิจ การนำพาบริษัทสู่การเป็น One of the Best Technology Company ระดับภูมิภาค ถือว่ามีความท้าทายไม่น้อย เพราะจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เกิดการ Digitalization ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป แนวโน้มต่าง ๆ ของโลกต่างไปจากเดิม คู่แข่งขยายวงกว้างมากขึ้น และมีกฎระเบียบใหม่ ๆ เกิดขึ้น
เทคโนโลยี หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ
เมื่อธนาคารมีบทบาทน้อยลง โดยเฉพาะในฐานะตัวกลาง คำถามคือ อนาคตธนาคารจะเป็นอย่างไร และในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี SCB TechX จะมีส่วนอย่างไรในเรื่องนี้
ตรัยรัตน์ บอกว่า ทุกคนรู้ว่าเทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญในการพัฒนาบริการใหม่ๆ นำไปสู่ศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน และการสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ดังนั้นธนาคารไม่สามารถพึ่งพาเทคโนโลยีจากภายนอกได้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาเทคโนโลยีด้วยตัวเองเป็นหลัก ซึ่งด้วยพลังและความชำนาญในตลาดระดับภูมิภาค SCB TechX สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำได้ในอนาคต
Mindset ของคนในองค์กร คือสิ่งแรกที่ต้องสร้าง
ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรของ SCB TechX จึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่เราให้ความสำคัญ เราต้องเปลี่ยน Mindset ใหม่ จากการเป็น IT Department ภายในองค์กร สู่การเป็น IT Regional Player เต็มตัว ทำงานแบบ Agile, Cloud Native และ Automated เน้นในระดับ Platform as a Service ซึ่งในช่วงเริ่มต้น ถือว่าพนักงานทุกคนปรับตัวได้ดี รองรับเป้าหมายใหม่ได้อย่างชัดเจน
SCB TechX จึงสามารถให้บริการได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ Technology ConsultingTech Consult, Innovate -Innovative Product, Infrastructure & Platform, Data & Security ซึ่งในระยะเริ่มต้น การให้บริการจะเน้นลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม SCB X ทั้งหมด
ก้าวต่อไปในอนาคตจะขยายสู่ลูกค้าบริษัทภายนอกเครือ ซึ่งมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ และกระจายในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นแผนสำคัญในการขยายธุรกิจ ทำให้ SCB TechX สร้างความสามารถให้กับบริษัทในเครือ และเป็น Source of Revenue ไปพร้อมๆ กัน
สำหรับผลงานที่ผ่านมาของ SCB TechX และเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่
- SCB EASY แอปฯ Mobile Banking ของ SCB ที่มีผู้ใช้งานกว่า 13 ล้านราย มีธุรกรรมกว่า 397 ล้านครั้ง บริการ
- SCB Connect มีผู้ใช้งานกว่า 9 ล้านราย
- แม่มณี (Mae Manee) Payment Gateway สำหรับพ่อค้าแม่ค้า มีผู้ใช้กว่า 0.46 ล้านราย
- โรบินฮู้ด แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี มีผู้ใช้งาน 2.54 ล้านราย 1.86 แสนร้านค้า และ 2.6 หมื่นไรเดอร์
ตรัยรัตน์ บอกว่า การพัฒนาแอปฯ ระดับ Enterprise Grade สามารถรองรับผู้ใช้งานหลักล้าน ทำธุรกรรมทางการเงินตลอดเวลา ต้องอาศัยทีมงานที่มีทักษะ มีประสบการณ์ มีความชำนาญ เพื่อพัฒนาบริการให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีความเสถียร น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ซึ่ง SCB TechX ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน
อีกทั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่น บริการ Travel และ Loyalty บนแพลตฟอร์ม โรบินฮู้ด รวมถึง SPRING UP แพลตฟอร์มด้านสุขภาพ ที่สามารถคำนวณแคลอรี่จากอาหาร วางแผนการออกกำลังกาย และ Telemedicine แชทคุยกับแพทย์เรื่องปัญหาสุขภาพ และอนาคตจะมีบริการใหม่ๆ ตามออกมาอย่างต่อเนื่อง
จับมือ ปับลิซีส เซเปียนท์ ต่อยอดองค์ความรู้ระดับโลก
ก่อนหน้านี้ SCB TechX ได้ประกาศร่วมทุนครั้งประวัติศาสตร์กับ ปับลิซีส เซเปียนท์ ผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation และมี Industry Knowledge มีองค์ความรู้จากทั่วโลก ซึ่งจะเป็นพันธมิตรที่ส่งเสริมด้าน Digital Transformation อย่างชัดเจน
ตรัยรัตน์ บอกว่า องค์ความรู้จากทั่วโลกมีความสำคัญในการทำ Digital Transformation อย่างยิ่ง ด้วยโลกที่ไร้ขอบเขต สามารถเชื่อมถึงกันได้หมด ทุกคนทุกองค์กรต้องปรับตัว คำถามคือจะปรับตัวอย่างไร จึงจะเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด องค์ความรู้จากปับลิซีส เซเปียนท์ จะช่วยในส่วนนี้ได้มาก
“ทุกอุตสาหกรรม เช่น อุปโภคบริโภค, พลังงาน, ค้าปลีก, การเงินการธนาคาร ต้องปรับตัว และองค์ความรู้ทั้ง Industry Knowledge และการทำ Digital Transformation คือกุญแจสำคัญ แต่ทั้งหมดก็ต้องปรับและประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบทในแต่ละท้องถิ่น ดังนั้น ความร่วมมือระหว่าง SCB TechX และ ปับลิซีส เซเปียนท์ จะส่งเสริมกันได้อย่างลงตัว”
คน คือปัจจัยสู่ความสำเร็จ
ตรัยรัตน์ บอกว่า เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัว ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คนเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่ง คุณสมบัติที่สำคัญคือ
- ต้องมีความกระหายที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ต้องมีลักษณะแบบ T Shape คือ รู้กว้างและรู้ลึก
- พร้อมรับความเสี่ยง ออกนอก Comfort Zone ท้าทายสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
- มี Accountability ทำงานด้วยคามรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อบริษัทและต่อผู้บริโภค
ปัจจุบัน SCB TechX มีพนักงานกว่า 700 คน ส่วนใหญ่อายุจะอยู่ในช่วงน้อยกว่า 30 ปี ก็ถือเป็น Millennium Generations แต่เราก็มีสัดส่วนคนที่มีอายุระดับนึงที่มีประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ ด้วยเหมือนกัน พนักงานเราจึงมีความแตกต่างหลากหลาย แต่อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจกันเป็นอย่างดี ทุกคนมีอิสระในการสร้างสรรค์งาน ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ และเพื่อสนับสนุนให้เกิดสิ่งเหล่านี้มากขึ้น พนักงานของ SCB TechX นอกจากคนไทยยังมี คนสิงคโปร์, คนอินเดีย ทำงานร่วมกัน และยังมีแผนขยาย Delivery Center ไปตั้งสาขาตามหัวเมือง เช่น เชียงใหม่, ขอนแก่น ซึ่งมีกลุ่มคนไอทีอยู่มาก และขยายไปต่างประเทศ เช่น เวียดนาม เพื่อให้เกิดความหลากหลายมากขึ้น
ตรัยรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่เป็นเพียงแผนก้าวแรกในการเป็น One of the Best Technology Company ระดับภูมิภาค ของ SCB TechX เท่านั้น รับรองว่าในก้าวต่อ ๆ ไปจะเข้มข้นและสนุกกว่านี้อีกมาก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา