ผลสำรวจจาก SCB ชี้นักธุรกิจชาวจีนที่มีธุรกิจในไทย 66% สนใจเพิ่มการลงทุนหลัง COVID-19 มากขึ้น

ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดยธนาคารไทยพาณิชย์ได้ชี้ให้เห็นว่านักธุรกิจชาวจีนที่มีธุรกิจในไทย 66% สนใจเพิ่มการลงทุนหลัง COVID-19 มากขึ้นหลังจากนี้ และมองไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญไว้ขยายเข้าสู่ตลาดอื่นๆ ต่อไปหลังจากนี้

Shenzhen เซินเจิ้น ประเทศจีน
ภาพจาก Shutterstock

ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ทำการสำรวจทิศทางการลงทุนของนักลงทุนจีนในประเทศไทยภายหลัง COVID-19 โดยจัดทำแบบสอบถามและสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทจีนขนาดกลางและขนาดใหญ่ ทั้งที่อยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนและในประเทศไทยจำนวน 170 ราย โดยผลสำรวจชี้ว่า 66% ที่บริษัทจีนเหล่านี้มีธุรกิจในไทยอยู่แล้วมองว่าจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นหลังจากนี้ และมองว่าไทยเป็นฐานสำคัญที่จะขยายออกไปตลาดประเทศเพื่อนบ้านหลังจากนี้

การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าโครงสร้างการลงทุนของนักลงทุนจีนในประเทศไทยมีทิศทางเปลี่ยนไป จากที่มุ่งเน้นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เงินลงทุนสูง เช่น อุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ มาสู่การลงทุนขนาดเล็กลง จากผลสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 57% สนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยใช้เม็ดเงินลงทุนมูลค่าต่ำกว่า 500 ล้านบาทต่อโครงการในระยะ 1-2 ปีจากนี้ ซึ่งแตกต่างจากโครงสร้างและขนาดของการลงทุนในอดีตที่เป็นการลงทุนที่มักจะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท

SCB มองว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะบริษัทจีนในกลุ่ม SME ต้องการย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้า อีกทั้งต่อยอดห่วงโซ่อุปทานของสายการผลิตให้กับอุตสาหกรรมหลัก ซึ่งจะใช้เงินลงทุนในช่วงแรกน้อยลงเพื่อเรียนรู้ตลาดก่อนขยายธุรกิจในอนาคตตามโอกาสและทิศทางการเติบโต โดยภาคธุรกิจบริการและเทคโนโลยี เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของนักธุรกิจจีนที่มีแนวโน้มจะขยายการลงทุนในประเทศไทยต่อไป

ในผลสำรวจยังชี้ว่าบริษัทจีนที่มาตั้งฐานในประเทศไทยนั้นใช้ซัพพลายเออร์ในประเทศไทยถึง 56% นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มการใช้สินค้าจากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยหลังจากนี้มากถึง 82% อย่างไรก็ดีถ้าหากสอบถามเรื่องของการเพิ่มปริมาณสินค้าจากจากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยในปีนี้หรือไม่นั้น ผลสำรวจกลับพบว่า  62% กลับยังไม่ใช้สินค้าจากไทย

ขณะที่ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ UNCTAD ได้คาดว่าเม็ดเงินในการลงทุนในปี 2021 นี้ยังคงหดตัวต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในระยะฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 และความกังวลเรื่องความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์

โดย UNCTAD คาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2022 อย่างไรดีการไหลเวียนของเม็ดเงินลงทุนทั่วโลกล่าสุดนั้นยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงวิกฤติการเงินโลกปี 2008-09 ซึ่งเป็นระดับ FDI ที่ต่ำสุดในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา

ในไทยนั้นเม็ดเงินการลงทุนจากจีนที่เข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา และครองแชมป์ 2 ปีซ้อนจนถึงปี 2019 ขณะที่ปี 2020 ในช่วง 9 เดือนแรกเป็นรองเพียงแค่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น

สำหรับรายงานฉบับเต็มสามารถอ่านได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ