บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB โดยธุรกิจธนาคารและบริษัทย่อยในกลุ่มมีกำไรสุทธิของปี 2566 จำนวน 43,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% จากปีก่อน มาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้จากการลงทุน และอื่นๆ โดยมีรายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ อยู่ที่ 43,083 ล้านบาท ลดลง 4.0% จากปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 43,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9% จากปีก่อนเพื่อบริหารคุณภาพสินเชื่ออย่างรอบคอบ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยที่ไม่ทั่วถึง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 160% เท่ากันกับปีที่แล้ว
อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB กล่าวว่า ปี 2566 ทางบริษัทฯ มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด ภายใต้การฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่ทั่วถึง ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง ตลอดจนความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯ เติบโตสินเชื่อผู้บริโภคแบบไม่มีหลักประกันเพิ่มขึ้นในอัตรา 24% จากปีก่อน โดยมียอดสินเชื่อคงค้างในส่วนนี้กว่า 165,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปี 2567 นี้ธนาคารตั้งเป้าหมายเชิงกลยุทธ์มุ่งเน้นด้านดิจิทัล ทั้งปรับกระบวนการทำงานและเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางนี้ อีกทั้งมุ่งเน้นธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ไปจนถึงการบริหารพอร์ตสินเชื่อเน้นในกลุ่มลูกค้าสินเชื่อที่มีคุณภาพและมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และระมัดระวังในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายว่า อัตราการเติบโตสินเชื่อจะอยู่ที่ 3-5%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ หรือ NIM จะอยู่ที่ 3.7-3.9%, รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิคาดว่าจะเติบโตหลักเดียวในช่วงต้นถึงกลาง, อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ 43-45% และ อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่ออยู่ที่ 1.6-1.8%
ผลประกอบการของ SCB ใน ปี 2566 มีจุดสำคัญดังนี้
- กำไรสุทธิอยู่ที่ 43,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 124,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
(ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ: NIM อยู่ที่ 3.73% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ 3.29%) - รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ อยู่ที่ 43,083 ล้านบาท ลดลง 4.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- รายได้จากการลงทุนและการค้า อยู่ที่ 3,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อยู่ที่ 71,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 96,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.44% เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นเดือน ก.ย. ที่อยู่ระดับ 3.30%
ทั้งนี้ ในปี 2566 SCB มีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่ที่ 43,600 ล้านบาท (คิดเป็น 1.82% ของสินเชื่อรวม) ซึ่งปรับเพิ่มขึ้น 28.9% จากปี 2565 ที่อยู่ราว 33,829 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทาง SCB มีเงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ที่ 18.8% และมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ระดับ 9.3%
ที่มา บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน), SET
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา