SCB ได้มีมติให้ซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 16,000 ล้านบาท โดยจุดประสงค์หลักเพื่อดูแลผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นของธนาคาร
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคาร ได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของธนาคารเพื่อเป็นการดูแลผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น และเพื่อการบริหารทางการเงิน ซึ่งธนาคารกำหนดจะซื้อหุ้นคืนคิดเป็น 4% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ภายในวงเงินไม่เกิน 16,000 ล้านบาท
สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ของ SCB คือเพื่อเป็นการดูแลผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น สร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นของธนาคารถึงสถานะทางการเงินและขีดความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง รวมถึงเพื่อให้ราคาหุ้นของธนาคารสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของธนาคารได้มากยิ่งขึ้น
ธนาคารคาดหมายว่าการซื้อหุ้นคืนนี้จะส่งผลบวกต่อผู้ถือหุ้น เช่น
- การเพิ่มขึ้นของกำไรต่อหุ้น
- การเพิ่มขึ้นของเงินปันผลต่อหุ้น
- การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE)
นอกจากนี้ธนาคารยังมีสภาพคล่องส่วนเกินและเงินกองทุนขั้นที่ 1 ในระดับที่สูงมากที่จะสามารถสนับสนุนโครงการซื้อหุ้นคืนนี้ได้อย่างเพียงพอ และในอนาคตธนาคารสามารถจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนมานี้ออกไป เพื่อนำสภาพคล่องกลับมาใช้ในการลงทุนต่อยอดการเติบโตของธนาคารเมื่อมีโอกาส
แต่หากเมื่อครบกำหนดระยะการจำหน่ายหุ้นคืนและธนาคารเห็นว่าไม่มีโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมที่จะให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ธนาคารอาจพิจารณาตัดหุ้นที่ซื้อคืนนี้และจดทะเบียนลดทุนต่อไป ซึ่งถือเป็นการบริหารจัดการทุนให้มีประสิทธิภาพเพื่อผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น
โดยกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนของ SCB จะมีระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2563
ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา