รางวัล The Most Powerful Real Estate Brand จาก TerraBkk คือรางวัลสำคัญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะการจะได้รางวัลนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ต้องพิสูจน์การรับรู้ ภาพลักษณ์ และความพึงพอใจของลูกค้า
ปี 2022 บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC Asset คือบริษัทที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ซึ่งจุดน่าสนใจคือ จากที่ SC Asset ไม่เคยติดใน 10 อันดับแรก แต่ล่าสุดบริษัทไต่อันดับจนเป็นอันดับ 1 และได้รับรางวัลดังกล่าว
SC Asset ปรับภาพลักษณ์แบรนด์บ้านหรูจนกลายเป็นแบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดในตลาดได้อย่างไร และหลังจากนี้ SC Asset จะเปลี่ยนไปขนาดไหน Brand Inside อยากชวนมาหาคำตอบไปด้วยกัน
การทำตลาดที่ไม่ One Sized Fit All
คุณเขม ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ หัวหน้าสายงานการตลาด SC Asset เล่าให้ฟังว่า แม้ในช่วงแรกบริษัทยังไม่เคยอยู่ใน 10 อันดับแรกของรางวัลดังกล่าว แต่ด้วยความพยายามในมุมการตลาดที่หลากหลาย ทำให้บริษัทไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยเริ่มมาติด 5 อันดับแรกในช่วง 3 ปีล่าสุด และในปี 2020 ได้รางวัล Rising Star
“ในมุมของการตลาด SC Asset ค่อนข้างแข็งแกร่งในเรื่องบ้านหรูแบรนด์ Bangkok Boulevard แต่เราต้องการเป็นมากกว่านั้น จึงเร่งทำผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง เช่น บ้านคนโสด หรือบ้านสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะเราเชื่อว่าบ้านแบบเดียวไม่ได้เหมาะกับทุกคน ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้แบรนด์เรามีพลังมากขึ้นทันที”
ปัจจุบัน SC Asset มี SC Design Core Team ที่รวมฝ่ายเทคโนโลยี, การตลาด และก่อสร้าง มาทำงานด้วยกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และทำออกมาได้อย่างรวดเร็ว เช่น LANAISeries แบบบ้านที่เกิดในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด มีจุดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย ทั้ง Indoor และ Semi-Outdoor เหมาะกับยุค Work from Home เป็นต้น
SC Asset คือแบรนด์บ้านแพงเท่านั้น ?
“ต้องบอกก่อนว่า บ้านแพงจริง ๆ เป็นแค่ Perception (ความรู้สึก) เพราะบ้านราคาประหยัด SC Asset ก็มีเหมือนกัน ประกอบกับการที่เราค่อนข้างโดดเด่นเรื่องบริการหลังการขาย ทำให้เมื่อนำแบบบ้าน และคอนโดมิเนียมที่หลากหลาย มาผสานกับเรื่องนี้ จึงทำให้ SC Asset ขยับขึ้นเป็นที่ 1 ในหมวดรางวัลดังกล่าวได้”
หากเจาะไปที่แบบบ้าน นอกจาก Bangkok Boulevard ทาง SC Asset ยังมีบ้านตระกูล V เช่น Venue และ V Compound กับ Pave ที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้ ส่วนคอนโดมิเนียม จะเริ่มทำตลาดกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทำให้ SC Asset มีภาพที่หลากหลายกว่าเดิม
สำหรับปี 2023 ทาง SC Asset มีแผนเปิดตัวกว่า 20 โครงการ ทั้งบ้านแนวราบ และคอนโดมิเนียม ตอบโจทย์ทุกกลุ่มระดับผู้ซื้อเช่นเดิม และโดดเด่นเรื่องบริการหลังการขายที่ที่หนึ่งในหัวใจของการทำธุรกิจ และความแตกต่างเมื่อเทียบกับผู้เล่นอื่นในตลาด
เผยความจริงของบริการหลังการขาย
โฉมชฎา กุลดิลก หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์ และสื่อสารองค์กร SC Asset เสริมว่า เมื่อบริการหลังการขายของบริษัทแข็งแกร่ง ทำให้มีแคมเปญสื่อสารองค์กรใหม่ที่เน้นเรื่องบริการหลังการขายโดยเฉพาะ ถือเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์รายแรก ๆ ที่กล้าสื่อสารเรื่องนี้ และมาพร้อมกับแท็กไลน์ #จะกี่ปีSCไม่ทิ้งคุณ
“ถ้าจะโฆษณาว่าเราบริการหลังการขายดี เราก็ต้องมั่นใจจริง ๆ เพราะเรื่องนี้ใครก็รู้ว่า ทำดีเท่ากับเสมอตัว แต่ถ้าไม่ดีจริงก็คงเจอแรงตีกลับไม่น้อย แต่ด้วยทุกเดือนเรามีการประชุม Voice of Customers ที่เปิดเสียงติชมที่ลูกบ้าน SC Asset โทรเข้ามา ให้กับ CEO และผู้บริหารระดับสูงฟัง เพื่อให้กำลังใจ และนำไปปรับปรุงแก้ไขเรื่องต่าง ๆ”
นอกจากนี้ SC Asset ยังชูเรื่อง Worry Free Home หรือการหมดกังวลเรื่องบ้าน ผ่านการออกแบบคุณภาพสูง ผ่านความเชื่อเรื่องการจะเป็นแบรนด์ที่ดี ต้องมีสินค้าที่ดีก่อน และกว่าสินค้าจะออกมาถึงลูกค้า พนักงานต้องทำงานกันอย่างมีความสุข และเชื่อใจกัน โดยอยู่บนพื้นฐานส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า
ปรับองค์กรมุ่งสู่คนรุ่นใหม่เต็มที่
ตอนนี้ SC Asset กำลังเดินหน้าสื่อสารแบรนด์กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z เต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายเป็น 20 อันดับองค์กรแรกที่คนไทยอยากร่วมงานมากที่สุด จากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 43 ซึ่งเรื่องดังกล่าวล้อไปกับการปรับภาษาในการสื่อสารแบรนด์ใหม่ ใช้ภาษาวัยรุ่น และมีเฉดสีที่ไม่ใช่แค่ส้ม SC Asset เพื่อให้ทุกอย่างมันสนุกขึ้น
“SC Asset ทำคอนเทนต์เพื่อคนรุ่นใหม่มากกว่าเดิม เพราะพวกเขาอาจเป็นลูกค้าของเราในอนาคต และในฝั่งบริษัท ภาพการทำงานจะมีสวัสดิการต่าง ๆ ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ เช่น Flexi-Benefits ที่ให้พนักงานนำเงินพิเศษไปดูแลตัวเองได้ หรือการให้อิสระในการ Work from Anywhere เป็นต้น”
ทั้งนี้ปี 2023 จะเป็นปีที่ SC Asset ครบรอบ 20 ปี ทำให้มีแคมเปญ และการสื่อสารองค์กรในรูปแบบต่าง ๆ ที่น่าสนใจออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดจะเน้นให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็น Good Everyday Brand for Everyone ที่ทำธุรกิจโดยมีคุณค่าอยู่เหนือกำไร และส่งต่อคุณค่าเหล่านั้นไปที่ลูกค้า, พนักงาน, องค์กร และสิ่งแวดล้อม
CEO คืออีกปัจจัยสำคัญในการสร้างแบรนด์
ท้ายนี้ ณัฏฐกิตติ์ และ โฉมชฎา ให้ความเห็นตรงกันว่า ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SC Asset คือหัวใจสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ SC Asset ให้แข็งแกร่ง และทรงพลัง โดยเฉพาะเรื่องภาพลักษณ์ต่อลูกค้า เพราะเมื่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารจริงจัง ทุกคนในองค์กรย่อมจริงจังในเรื่องนี้ด้วย
“การดูแลลูกค้าคือวัฒนธรรมของ SC Asset และการไม่ใส่ใจลูกค้า คนที่ SC Asset เขาไม่ทำกัน คล้ายกับการนั่งประชุมในไทยแล้วเอาเท้าขึ้นมาที่โต๊ะ ทุกคนที่ไทยก็คงมองเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ทำให้บริการหลังการขายของเรากลายเป็นเรื่องที่คนบอกต่อ และเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเป็นลูกบ้านของเรา” โฉมชฎา กล่าว
ปัจจุบัน SC Asset ไม่ได้มีแค่บ้านแนวราบ หรือคอนโดมิเนียม แต่ยังขยายออกไปในธุรกิจอื่น เช่น โรงแรม, คลังสินค้า และการรับดูแลโครงการต่าง ๆ ซึ่งจุดนี้เพิ่มความแข็งแกร่งของแบรนด์ SC Asset และสร้างการจดจำให้กับคนไทยได้ในหลายมิติ
สรุป
การทำทั้งหมดของ SC Asset ชี้ให้เห็นว่า การเป็น The Most Powerful Real Estate Brand ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครคนหนึ่ง แต่มาจากการช่วยเหลือกันของทั้งองค์กร ไล่ตั้งแต่ผู้ออกแบบบ้าน, ฝ่ายทรัพยากรบุคคล, เจ้าหน้าที่การตลาด จนถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และน่าติดตามว่าในปีหน้า SC Asset จะมีหมัดเด็ดอะไรเพื่อรักษาตำแหน่งนี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา