เมื่อวัสดุดี-ก่อสร้างเก่งไม่พออีกต่อไป SC Asset จึงปรับตัวเองใหม่ พร้อมงัดดิจิทัลมัดใจลูกบ้าน

ถ้าติดตามข่าวแวดวงอสังหาฯ มาระยะหนึ่งจะพบว่า Developer หรือผู้พัฒนาโครงการเกือบทุกรายเริ่มปรับมาลงทุนดิจิทัลเยอะขึ้น ซึ่ง SC Asset ก็คือหนึ่งในนั้น ผ่านการ Transform ตัวเองเป็น Living Solution Provider

SC Asset Living Solution Provider
SC Asset กับแผนธุรกิจใหม่ // ภาพจาก Facebook ของ SC Asset

ดิจิทัลต้องไปให้ถึงแก่นการใช้ชีวิต

ขึ้นชื่อว่าการลงทุนระบบดิจิทัล การมาโฆษณาแค่บริษัทเราเอาดิจิทัลมาช่วยสร้างบ้านให้สวยงาม หรือควบคุมต้นทุนในการก่อสร้างดีขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่อง เพราะผู้บริโภคคงไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องทั้งสองเวลาจะซื้อบ้าน หรือคอนโดมิเนียมซักแห่ง ดังนั้นการสื่อสารดิจิทัลแบบอ้อมๆ ว่าถ้ามาอยู่กับโครงการบริษัทแล้วดีอย่างไรน่าจะถูกต้องกว่า

ซึ่งตัวอย่างในตลาดก็มีให้เห็นแล้วเช่น “แสนสิริ” และ “อนันดา” ที่ต่างก็มีการนำดิจิทัลมาเป็นหนึ่งในปัจจัยตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง จนถึงการทำตลาด พร้อมใช้วิธีสื่อสารที่แนบเนียนว่าในโครงการมีดิจิทัลซ่อนอยู่ จนช่วยให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดีในคนยุคใหม่ ซึ่งรายล่าสุดที่จะเดินเส้นทางนี้เหมือนกันก็คือ SC Asset

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น เล่าให้ฟังว่า การปรับไปสู่ Living Solution Provider นั้นเป็นเรื่องจำเป็นที่บริษัทต้องก้าวไป เพราะมันช่วยให้การทำตลาดนั้นง่ายขึ้น แต่ที่ดีที่สุดคือการใช้ดิจิทัลจนสามารถเข้าใจแก่นการใช้ชีวิตผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่างๆ ของบริษัทในอนาคต

Digitize-Design-Develop คือหัวใจ

อย่างแรกของการปรับตัวสู่ Living Solution Provider คือการนำฐานข้อมูลต่างๆ ที่เก็บไว้ในรูปแบบ Analog มา Digitize เพื่อวิเคราะห์เป็น Big Data และนำไปประยุกต์ใช้ ถัดมาคือการนำทุกอย่างมา Design ตั้งแต่แผนการตลาด จนถึงการออกแบบโครงการ จากนั้นคือ Develop ที่นำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างทุกอย่างให้เกิดขึ้นจริง

แผนการออกแบบบ้านของ SC Asset
การออกแบบที่นำความชอบของแต่ละคนมาถอดรหัสด้วยดิจิทัลเพื่อใหตรงกับความต้องการที่สุด

แต่การเดินแผนนี้จะให้ SC Asset ทำคนเดียวคงไม่ได้ เพราะต้องร่วมกับพาร์ทเนอร์ตั้งแต่กลุ่มที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน, Startup หน้าใหม่ จนไปถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่นการลงทุนในบริษัท Fire One One เพื่อให้มาช่วยแนะนำการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล หรือการให้ AIS ช่วยสร้าง Application ด้าน Home Solution เป็นต้น

สำหรับ App ดังกล่าวชื่อว่า RueJai (รู้ใจ) ที่จะเชื่อมต่อบริการที่หลากหลายกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยด้วยดิจิทัล โดยช่วงแรกบริการต่างๆ อาจได้ใช้งานในบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ก่อน เพราะตอบโจทย์ Function จำนวนมากในบ้านได้ หลังจากนั้นจะทยอยให้นำมาใช้กับบ้านขนาดเล็ก จนถึงคอนโดมิเนียม

รายได้ของ SC Asset
รายได้ของ SC Asset

ปั้นรายได้-ยอดขาย แตะ 17,000 ล้านบาท

ทั้งนี้เป้าหมายของ SC Asset ในปีนี้คือปิดรายได้ และยอดขายที่ 17,000 ล้านบาท ผ่านการเปิดตัว 19 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 19,000 ล้านบาท เป็นบ้านแนวราบ 17 โครงการ ที่เหลือเป็นคอนโดมิเนียม พร้อมเตรียมงบประมาณเพื่อลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้อีก 10,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงการใหม่ๆ

ขณะเดียวกันบริษัทยังวางเป้าหมายระยะยาว 3 ปีจากนี้ต้องมียอดขายรวมทั้งหมด 60,000 ล้านบาท ซึ่งหลักๆ มาจากโครงการบ้านเดี่ยวราคาเกิน 20 ล้านที่บริษัทเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด พร้อมกับเติมเต็มส่วนที่ขาดด้วยการบุกบ้านแนวราบราคาตั้งแต่ 2-5 ล้านบาทมากขึ้น รวมถึงคอนโดมิเนียมหรูเช่นกัน

สัดส่วนรายได้ภายใน 3 ปีของ SC Asset
สัดส่วนรายได้ในอนาคตของ SC Asset

ส่วนโครงการที่จะเดินภายใต้แนวคิด Living Solution Provider ในปีนี้ประกอบด้วย 2 โครงการแนวราบย่านบางกระดี กับกรุงเทพกรีฑา ขนาดพื้นที่ 200 ไร่ กับ 115 ไร่ตามลำดับ ซึ่งทั้งคู่จะมาพร้อมความเป็น Township หรือการใกล้ชิดกันของโครงการย่อยๆ ในพื้นที่นั้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างออกแบบ

สรุป

แม้การเดินดิจิทัลของ SC Asset จะยังไม่ชัดเจนมากนัก เพราะก่อนหน้านี้มีเพียงการร่วมมือกับ Application ซ่อมบำรุงบ้านอย่าง Fixzy เท่านั้น แต่การได้ Fire One One ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องดิจิทัล รวมถึงผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเต็มระบบ ก็คงไม่ทำให้ SC Asset ตกขบวนดิจิทัลไปได้ง่ายๆ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา