ในตลาดสมาร์ตโฟนที่ประเทศไทย ซัมซุงคือหนึ่งในกลุ่มผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัย ผ่านการมีผลิตภัณฑ์ครบทุกระดับ และทยอยใส่นวัตกรรมใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่อง AI แต่แค่นั้นก็คงไม่เพียงพอในมุมของ พรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
เพราะเธอมองว่า เมื่อสินค้าเด่นเรื่อง Innovation แล้ว การชูเรื่อง Emotion มาช่วยขับเคลื่อนก็น่าจะช่วยให้สมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy เป็นที่น่าสนใจ และอยู่ในใจผู้บริโภคมากขึ้นไปอีก และนั่นคือที่มาของการเดินหน้าทำแคมเปญการตลาดที่เน้นเรื่อง Emotion อย่างล่าสุดคือ Say it with Galaxy
แคมเปญดังกล่าวมีรายละเอียดอย่างไร และจับใจผู้บริโภคด้วย Emotion แบบไหน Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับพรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด รวมถึงทิศทางการทำตลาดในแง่มุมอื่น ๆ ของซัมซุง ประเทศไทย ดังนี้
Say it with Galaxy ที่เน้นเรื่อง Emotion
พรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า การทำตลาดกลุ่มสมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy ของบริษัท จะเน้นเรื่อง Emotion หรือแคมเปญที่สื่อเรื่องความรู้สึกในการใช้งานสมาร์ตโฟนในแง่มุมต่าง ๆ มากขึ้น
เช่น การสื่อสารเรื่อง AI บนสมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy ที่ปกติแล้วจะเน้นการสื่อด้วยนวัตกรรมการใช้งานที่ช่วยเหลือผู้ใช้ในมุมชีวิตประจำวัน หรือการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะเริ่มมีการสื่อสารด้วยมุมการใช้งาน AI เพื่อสื่อความรู้สึกของผู้ใช้ไปยังผู้อื่นให้มากกว่าเดิม
ล่าสุดคือแคมเปญ Say it with Galaxy ที่ซัมซุงมีส่วนในการจองพื้นที่บริเวณลานลิฟต์แก้วของเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นมีจอที่สูงเท่าตึก 4 ชั้น เพื่อให้ผู้บริโภคที่สนใจสามารถเลือกภาพเพื่อแสดงบนหน้าจอดังกล่าวได้ แถมยังสื่อสารความรู้สึกต่าง ๆ ด้วยฟีเจอร์ Sketch to Image ได้
สร้างภาพ และสื่อความหมายดี ๆ
“นี่เป็นครั้งแรกในโลกที่แคมเปญ Say it with Galaxy ถูกจัดขึ้น เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูป แต่งภาพ และแชร์เรื่องราวบนจอยักษ์ ณ ลานลิฟต์แก้ว เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2024 จนถึง 5 มกราคม 2025 รวมระยะเวลากว่า 51 วัน”
พรรณวลัย เสริมว่า ปัจจุบัน AI กลายเป็นหัวใจสำคัญในทุกอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่ถูกใช้งานบนสมาร์ตโฟน ผู้บริโภคจึงเริ่มมีความเข้าใจการใช้งานของนวัตกรรมนี้ แต่น่าจะดีกว่าถ้านวัตกรรมสามารถสื่อสารความรู้สึกต่าง ๆ ออกมาได้ด้วย ซึ่งสมาร์ตโฟนรุ่น Galaxy S24, Z Flip และ Z Fold ช่วยเรื่องนี้ได้
“AI ไม่ได้เป็นเพียงฟีเจอร์ แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต และเราในฐานะผู้นำตลาดต้องนำหน้านวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์” พรรณวลัย กล่าว ขณะเดียวกันแคมเปญดังกล่าวยังมีเป้าหมายสร้างความผูกพันระยะยาวกับแบรนด์ผ่านการสื่อสารด้าน Emotion คู่กับ Innovation
ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงาน 20,000 คน
ในเบื้องต้น ซัมซุง ประเทศไทย ตั้งเป้าผู้คนเข้าร่วมในแคมเปญดังกล่าวราว 20,000 คน โดยหวังว่าทั้ง 20,000 คน นั้นได้สามารถแปรผันเป็นยอดขายหลังจากทดลองใช้งานสมาร์ตโฟนรุ่นต่าง ๆ รวมถึงเทคโนโลยี AI นอกจากนี้ยังหวังเรื่องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ หรือ Brand Engagement เช่นกัน
“เราไม่ได้มุ่งเน้นแค่ยอดขาย แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย โดยบริการของเรามุ่งสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์” พรรณวลัย กล่าว นอกจากนี้แคมเปญดังกล่าวยังสะท้อนถึงการเป็นเจ้าตลาดสมาร์ตโฟนของซัมซุง ที่ต้องสร้างความแตกต่างในแง่กลยุทธ์ทางการตลาดระหว่างคู่แข่ง
ซัมซุง มองว่า ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดสมาร์ตโฟนค่อนข้างดุเดือด ทั้งจากแบรนด์กลุ่มผู้นำด้วยกัน และแบรนด์ C ทำให้การทำตลาดเพื่อสร้างการจดจำนอกจากแค่สื่อสารนวัตกรรมอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงการส่งอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานสินค้าคือสิ่งจำเป็นมากขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา