ปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตมีเหมือนกันทุกคน หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่อยู่อาศัย หรือบ้าน ซึ่งใช่ว่าทุกคนจะเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ บางคนติดปัญหาเรื่องกู้แบงก์ยาก เพราะทำอาชีพที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือรายได้น้อย ทางสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (HFA) เลยยื่นเรื่องไปที่ภาครัฐเพื่อดันให้เกิดโครงการออมเงินและกู้บ้านได้ง่ายขึ้น
สมาคมสินเชื่อบ้าน ชงรัฐสิ้นปีนี้เริ่มโครงการออมก่อนกู้ ช่วยฟรีแลนซ์-รากหญ้า
กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย บอกว่า ปัจจุบันประชาชนบางส่วนยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย (สินเชื่อบ้าน) ได้ สมาคมฯ เราเลยผลักดันภาครัฐให้เกิดโครงการสนับสนุนให้คนออมเงินก่อนที่จะกู้บ้าน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ และคนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อ สามารถกู้เงินจากแบงก์ได้มากขึ้น
“เดิมคนที่มีรายได้น้อย คนที่ไม่มีรายได้ประจำจะขอสินเชื่อจากธนาคารได้ยาก เพราะธนาคารไม่รู้ว่า ประวัติการกู้ยืมและความสามารถในการชำระหนี้แบบไหน ดังนั้นโครงการนี้อาจจะให้ลูกค้าออมเงินต่อเนื่อง แต่ละเดือนก็ออมจำนวนเดียวกับค่างวดที่จะผ่อนบ้าน”
โครงการนี้จะสนับสนุนการออมของคนไทย แต่ก็เจาะจงกลุ่มที่วางแผนที่จะซื้อบ้าน ซื้อที่อยู่อาศัยเท่านั้น นอกจากจะเป็นผลดี คือเพิ่มพฤติกรรมการออมของผู้กู้ดีขึ้น ยังทำให้ภาคอุตสาหกรรมธนาคารมียอดปฏิเสธสินเชื่อ (Reject rate) ลดลง
“ถ้าเราวางแผนก่อนวว่าจะซื้อบ้าน พอเราออมเงินต่อเนื่อง 2 ปี ในจำนวนที่เท่ากับค่างวด ก็เป็นการแสดงว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้ มีความรับผิดชอบ ก็มีโอกาสที่จะได้สินเชื่อจะธนาคารมากขึ้น”
ออมแล้วได้เงินสบทบ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
แต่การที่จะให้คนกลุ่มหนึ่งยอมวางแผนออมเงินมากขึ้น ต้องมีแรงจูงใจพอสมควร เพราะเขาต้องสละเงินที่กินใช้มาออมเพื่อซื้อบ้าน เราก็ต้องเสนอผลตอบแทนที่ดีให้เขา
เช่น ผู้กู้อยากจะซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท ต้องเตรียมเงินดาวน์ 15% ของราคาบ้าน ก็เฉลี่ยมาแบ่งออมในแต่ละเดือน พอออมได้ครบ 15% ครบตามกำหนด ทางโครงการก็จะให้เรียกว่าเป็น Saving Bonus ให้ผู้ออมได้เงินสบทบเพิ่มอีก 5% ดังนั้นผู้กู้จะมีเงินดาวน์รวม 20% ของราคาบ้าน ทำให้วงเงินที่ต้องกู้ลดลง และมีโอกาสกู้ได้มากขึ้น
โครงการนี้ฯ อยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว จะเห็นทันปีนี้ไหม ?
ตอนนี้โครงการฯ ได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติแล้ว และภายใน 2 เดือนนี้คาดว่าจะนำเสนอในที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติที่อยู่ภายใต้การทำงานของคณะรัฐบาล เราหวังไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้จะ Impliment (เริ่มดำเนินการได้จริง)
ซึ่งภายในโครงการต้องมีความร่วมมือจากหลายส่วน เช่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคธนาคาร และต้องมีการตั้งคณะกรรมการกองทุนของโครงการนี้เพื่อพิจารณาในรายละเอียด เช่น เงื่อนไขผู้ที่เข้าโครงการได้ การกำหนดเพดานราคาบ้าน เงื่อนไขการผ่อนชำระ ฯลฯ
“กองทุนนี้ใช้งบไม่เยอะ ประมาณหลักพันล้านบาท ซึ่งเริ่มแรกน่าจะใช้งบที่ตั้งกองทุน Housing Fund (กองทุนเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยฯ) ที่ภาครัฐตั้งขึ้นตอนต้นปี แต่พอเริ่มสักพักก็ต้องใช้แหล่งเงินอื่นๆ ที่เราคิดไว้บ้างแล้ว”
สรุป
เอกชนเร่งภาครัฐออกโครงการช่วยผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ผู้มีรายได้น้อย ให้วางแผนออมเงินก่อนกู้บ้าน หวังคนกลุ่มนี้เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น คาดว่าปีนี้จะเห็นโครงการนี้ออกมา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Related