คนไทยมีเฮ! ซาอุฯ ตัดราคาน้ำมันดิบแข่งกับรัสเซีย หลังจากเจรจาลดกำลังการผลิตล้มเหลว

ราคาน้ำมันดิบอาจลดลงได้มากกว่านี้อีก หลังจากที่ล่าสุดซาอุดิอาระเบียประกาศตัดราคาน้ำมันแข่งกับรัสเซีย หลังจากที่ OPEC เจรจากับรัสเซียเพื่อขอลดกำลังการผลิตไม่เป็นผล

Oil Refinery Plant โรงกลั่นน้ำมัน
ภาพจาก Shutterstock

ซาอุดิอาระเบียเตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมไปถึงลดราคาน้ำมันดิบลง หลังจากที่การเจรจาของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ประสบความล้มเหลวในการขยายข้อตกลงกับรัสเซียซึ่งจะหมดระยะเวลาในเดือนมีนาคมนี้ โดย OPEC ขอให้รัสเซียลดกำลังการผลิตลงมาเพื่อที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้น

ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาทั้ง OPEC และรัสเซีย ตกลงที่จะมีการลดกำลังการผลิต เพื่อที่จะทำให้ราคาน้ำมันไม่ลดลงไปมากกว่านี้ แต่ผลของการเจรจาที่ล้มเหลวล่าสุด ทำให้หลังเดือนมีนาคมนี้ รัสเซียสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ตามความต้องการ ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้า Brent และ West Texas เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น มีราคาลดลงทันที 9-10% และเป็นการลดลงภายในวันของราคาน้ำมันดิบ Brent มากที่สุดในรอบ 11 ปีอีกด้วย

ราคาน้ำมันดิบนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาลดลงไปแล้วกว่า 30% จากความต้องการน้ำมันดิบที่ลดลงจากภาคการผลิตในประเทศต่างๆ เนื่องจากโรค COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงภาคการขนส่งที่หยุดชะงัก โดยเฉพาะในประเทศจีน

ในวันนี้ Bloomberg รายงานว่า ทางการของซาอุดิอาระเบียได้มีการบอกให้ผู้ผลิตน้ำมันสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าเดิม โดยคาดว่าหลังจากนี้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียจะสูงถึง 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปัจจุบันซาอุดิอาระเบียมีกำลังการผลิตราวๆ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ไม่เพียงแค่นั้นทางด้าน Reuters ยังได้รายงานว่า Saudi Aramco บริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ ยังได้ประกาศที่ลดราคาขายน้ำมันดิบลง เช่น ราคาน้ำมันดิบที่ส่งขายในทวีปเอเชียลดลงอีกราวๆ 3.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ซื้อขายในตลาดูไบ เป็นต้น

ขณะที่มุมมองของบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส มองว่า ประเด็นดังกล่าวจะยังกดดันให้ภาวะ Oversupply ของน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังคงอยู่ จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันโลกในอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เอเซีย พลัส คาดทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกจะผันผวนในทิศทางขาลง และหากพิจารณาค่าเฉลี่ยทั้งปี คาดจะมีโอกาสต่ำกว่าสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2563 ของฝ่ายวิจัยที่กําหนดไว้ที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากค่าเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบ YTD อยู่เพียง 58.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ ราคาน้ำมันดูไบ ปัจจุบันอยู่ราว 47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดย เอเซีย พลัส แนะนำให้ระยะสั้นนักลงทุนควรชะลอการลงทุนกับหุ้นที่เกี่ยวข้องไปก่อน

Update 09/03/2020: ล่าสุดเวลา 10:18 ราคาน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้าเปิดการซื้อขายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ West Texas อยู่ที่ 30.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาได้ลดลงไปถึง 26.28% ปัจจัยดังกล่าวส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ตกลงตาม เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานนำโดย ปตท. ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง

ที่มา – BBCMiddle East Eye 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ