Sappe ลุยการตลาดแบบใหม่ Innostudio สรรหานวัตกรรมให้สินค้าเซ็กเมนต์ใหม่ๆ เป็นพื้นที่ร่วมงานกับ SME มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ รวมถึงให้พนักงานได้คิดค้นสินค้าใหม่ๆ
ต้องเติบโตด้วยนวัตกรรม
ในช่วงปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องดื่มมีการเติบโตไม่มากนัก อาจถึงขั้นติดลบเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ที่ไม่เติบโตมาหลายปีแล้ว เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกที่มากขึ้น อีกทั้งยังเลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้น
ทำให้ Sappe มีการปรับแผนอยู่ตลอด มีการเพิ่มเซ็กเมนต์ใหม่ๆ นอกเหนือจากฟังก์ชั่นอล ดริ้งก์ มีการเข้าซื้อกิจการน้ำมะพร้าวแบรนด์ All Coco เพื่อเติมเซ็กเมนต์น้ำมะพร้าว และเมื่อต้นปีได้มีการร่วมทุนกับ “ดานอน” ในการผลิต และจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม B’lue เป็นตลาดเครื่องดื่มใสรสผลไม้
ทิศทางของ Sappe ต้องการเน้นสินค้าที่มีนวัตกรรมมากขึ้น เปิดกลยุทธ์ Innostudio เป็นแนวทางการตลาดแบบใหม่ พยายามให้พื้นที่พนักงาน ในการค้นหาสินค้าใหม่ๆ หรือทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ เพื่อพัฒนาสินค้าของไทย และร่วมมือกับเกษตรกร รวมถึงแบรนด์ SME เพื่อแปรรูปในการขายในสเกลใหญ่ๆ
ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) บอกว่า
“เริ่มเปิด Innostudio ตั้งแต่ปีที่แล้ว มีการวางแผนไลน์สินค้าในช่วง 3 ปี ร่วมมือกับ SME มหาวิทยาลัย เกษตรกรในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ จริงๆ อยากร่วมงานกับ SME เพราะมีศักยภาพสูง รวมถึงให้พนักงงานของเซ็ปเป้เองมีไอเดียในการพัฒนาสินค้าด้วย คนเซปเป้มี DNA อยากลองอยากทำอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว ทำให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กรไปเลย”
สำหรับ Innostudio มีการตั้งเป้าต้องมีสินค้าใหม่ๆ ออกมา 3-5 แบรนด์ต่อปี ตอนนี้มี 2 แบรนด์ที่วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เป้าเติบโต 30% จากดีลร่วมทุน และควบรวมกิจการ
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 Sappe มีการเติบโต 10% โดยมีการตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเติบโต 30% ปัจจัยหลักมาจากการที่ Sappe ได้เพิ่มทุนในการเข้าซื้อกิจการ All Coco ในสัดส่วน 51% เท่ากับว่าปีนี้จะรับรู้รายได้ทั้งหมด และมีการร่วมทุนกับดานอน ยิ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบัน Sappe มีสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% โดยแบ่งสัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าเป็นน้ำผลไม้ 70% ฟังก์ชั่นนอลดริ้ง 10-15% ฟังก์ชั่นนอล พาวเดอร์ 10-15% อื่นๆ 5-7%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา