การแก้เกมของ “เซ็ปเป้” ต้องทำให้ฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์โตได้ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ

เซ็ปเป้คัมแบ็คโหมตลาดฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ เร่ง Diversify บริษัท ไม่ได้โฟกัสแค่เครื่องดื่ม แต่ต้องครอบคลุมอาหารเพื่อสุขภาพ เตรียมขยายไลน์ขนมเพื่อสุขภาพปลายปี ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15%

 

ต้องโตด้วยนวัตกรรม

ห่างหายจากการแอคทีฟในตลาดไปอยู่พักใหญ่สำหรับ “เซ็ปเป้” โดยที่ในปีที่ผ่านมาเรียกว่าไม่ค่อยมีกิจกรรมการตลาดมากนัก มีเพียงรสชาติใหม่ออกมาเท่านั้น แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาอันดีเหมือนเป็นการซุ่มทำการบ้านอยู่ภายใน และเพื่อมาปล่อยของในปีนี้

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ไม่มีการเติบโตมาหลายปีแล้ว เพราะผู้บริโภคหันไปดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ แทน ย่อมส่งผลกระทบกับเซ็ปเป้เช่นกัน ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการปรับทัพ ปรับตัวอยู่มากมาย ในปี 2015 ไปทำการรีแบรนด์ให้เซ็ปเป้ บิวติดริ้งก์ ปรับโฉมปรับสูตรใหม่

และในปี 2017 ได้อออกรสชาติใหม่สูตรรีแล็กซ์ที่มีส่วนผสมของคาโมไมล์ ซึ่งรสชาตินี้เป็นที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์อย่างมาก เป็นสัญญาณชั้นดีในการปลุกตลาดฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโต 2% มีมูลค่าตลาด 1,800 ล้านบาท

ซึ่งในปีนี้เซ็ปเป้ได้พร้อมออกรบอีกครั้ง ปลุกตลาดฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ให้กลับมามีสีสัน มีการออกสินค้าใหม่มากกว่าปีก่อนๆ และมีการแตกไลน์สินค้าใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อรับกับเทรนด์สุขภาพของผู้บริโภค ยังคงเน้นที่นวัตกรรมของสินค้า สร้างความหลากหลายให้สินค้า เพราะตลาดนี้ต้องตอบโจทย์ลุกค้าอยู่ตลอดเวลา

ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“ยุคนี้เป็นยุคที่ปลาเร็วกินปลาใหญ่ เราจะเป็นปลาเร็วในการพัฒนาสินค้า เน้นสปีดในการทำอะไรให้เร็วกว่าเดิม เน้นการเติบโตด้วยนวัตกรรม และไม่ได้จำกัดแค่เครื่องดื่ม แต่จะขยายพอร์ตออกไปให้ครอบคลุมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และมีการปรับการตลาดให้เข้มข้น พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าอยู่ตลอดเวลา”

นอกจากนี้ในปี 2561 เซ็ปเป้ได้เสริมทัพผู้บริหารฝ่ายขายและการตลาดโดยดึง “วรพงศ์ เกียรติดำรงวงศ์” อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เนสท์เล่ ที่มีความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการขายและการตลาดในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมากว่า 27 ปี มาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด (Chief Commercial Officer) เพื่อรับผิดชอบด้านการพัฒนากลยุทธ์กำหนดแผนการตลาดต่างประเทศและในประเทศไทย

เร่งขยายพอร์ตไปขนมเพื่อสุขภาพ

ในปีนี้เซ็ปเป้เตรียมออกสินค้าใหม่จำนวน 10 รายการ เยอะกว่าปีก่อนๆ ที่มีออกสินค้าใหม่เฉลี่ย 6-7 รายการเท่านั้น โดยมีการเน้นที่นวัตกรรมของสินค้า ทั้งฟังก์ชั่นนอลใหม่ๆ หรือรูปแบบใหม่ๆ

ยกตัวอย่างสินค้าที่จะออกช่วงต้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ เป็นเซ็ปเป้ บิวติดริ้งก์ในรูปแบบเยลลี่ มองว่าเป็นเทรนด์ที่นิยมมากในต่างประเทศ จะช่วยสร้างสีสันในตลาดได้อีกมากเพรายังไม่มีผู้เล่นฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ทำรูปแบบนี้ และในช่วงปลายปีจะมีแตกไลน์สินค้าไปกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพ แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อแบรนด์

ปัจจุบันเซ็ปเป้แบ่งกลุ่มสินค้าเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ มีสัดส่วนรายได้ 14% ฟังก์ชั่นนอล พาวเดอร์ หรือเครือ่งดื่มแบบผง 13% น้ำผลไม้ สัดส่วนรายได้ 72% และเครื่องดื่ม RTE อีก 1%

มีสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 36.4% และต่างประเทศ 64% ในปีที่ 2017 มีรายได้ 2,687 ล้านบาท ในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโต 15%

สรุป

แม้ตลาดฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์จะไม่ไมด้มีการเติบโตแบบหวือหวามาหลายปี แต่ถ้าผู้ใฃเนในตลาดมีการสร้างสีสันด้วยสินค้าใหม่ๆ หรือรูปแบบใหม่ๆ ก็ทำให้ตลาดพลิกฟื้นกลับมาได้ ทำให้ได้เห็นการแก้เกมของเซ็ปเป้ที่ทำให้ตลาดกลับมาโต และยอดขายของบริษัทก็เติบโตด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา