หมดยุคซื้อซอฟต์แวร์ใช้แบบแยกชิ้น! SAP เดินเกมใหม่ด้วย Business Suite มี AI เป็นศูนย์กลาง ทำงานร่วมกันคนในองค์กร

อวสานซอฟต์แวร์องค์กรแบบเดิม

ในงาน SAP Connect 2025 งานใหญ่ครั้งแรกของ SAP ซึ่งจัดขึ้นที่ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศชัดเจนว่า “หมดยุคแล้ว” สำหรับการเลือกใช้ซอฟต์แวร์แบบแยกชิ้น หรือที่เรียกว่า Best-of-Breed

• คำถามคือ Best-of-Breed คืออะไร?

ต้องอธิบายแบบนี้ ที่ผ่านมาองค์กรส่วนใหญ่มักใช้แนวทางการเลือกใช้ซอฟต์แวร์แบบ Best-of-Breed หรือแปลให้เข้าใจง่ายๆคือ การเลือกซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดในแต่ละฟังก์ชัน เช่น ทีม HR ใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการสรรหาคน (Recruitment) แบบหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากทีม Finance หรือ Procurement และไม่ต้องพูดถึงทีมอื่นๆ อย่าง Supply Chain หรือทีมดูแลลูกค้า Customer experience ที่ก็จะใช้ซอฟต์แวร์แตกต่างกันออกไปอีก

วิธีการเลือกใช้ซอฟต์แวร์แบบนี้ กำลังกลายเป็นปัญหาขององค์กรในโลกยุค AI เพราะการแบ่งงานกันทำ เอาแต่ความเก่งของแต่ละฝ่ายไปใช้งาน โดยไม่ผสมผสานเข้าด้วยกัน คือหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลายธุรกิจ ไม่สามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ

มากกว่านั้น ถ้าพิจารณาถึงต้นทุนของการซื้อซอฟต์แวร์แยกชิ้น จะพบว่า ทั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูง ไม่คุ้มค่า และรวมถึงไม่สามารถประหยัดเวลาในการบริหารจัดการแบบแยกส่วน ส่งผลให้ Productivity ขององค์กรไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และถึงที่สุด คงไม่ต้องพูดถึงในกรณีที่หากองค์กรจะทำเรื่อง AI Transformation เพราะการทำงานแบบแยกส่วน จะทำให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปได้ยากมากๆ หรือถ้าเป็นไปได้ ก็จะมีต้นทุนที่สูงมาก

• และนี่เอง คือที่มาว่าทำไม SAP ถึงพูดชัดว่า ยุคสมัยของการซื้อซอฟต์แวร์องค์กรใช้แบบแยกชิ้นนั้นจบลงแล้ว หรือถ้าพูดอีกแบบก็คือโลกธุรกิจมาถึงจุดที่ อวสานการซื้อซอฟต์แวร์องค์กรใช้แบบแยกชิ้น!

สอดคล้องกับ Muhammad Alam กรรมการบริหารของ SAP SE ฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิศวกรรม ที่ได้ขึ้นกล่าว Keynote ในงาน SAP Connect 2025 และได้ประกาศชัดว่า “ในยุคที่ความผันผวนกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ ธุรกิจต้องการมากกว่าการรวบรวมแอปพลิเคชันที่แยกส่วนแบบ best-of-breed” 

“สิ่งที่เราประกาศในวันนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของ SAP Business Suite ที่ผสาน AI ข้อมูล และแอปพลิเคชั่น เข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่ช่วยให้ธุรกิจ สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดขึ้น ดำเนินงานได้รวดเร็วขึ้น และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่องและขยายผลได้จริง”

ปฐมบทใหม่ AI Agent ในองค์กร – AI ที่ทำงานเคียงข้างมนุษย์

ยุคสมัยใหม่ของการทำงานองค์กร คือซอฟต์แวร์ที่ผสมผสาน (integration) ทุกทีมไว้ด้วยกัน โดยมี AI + Data + Applications รวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

• SAP เรียกสิ่งนี้ว่า Business Suite โซลูชั่นที่มี AI เป็นศูนย์กลาง เพื่อทำงานร่วมกันกับคนในองค์กร

นอกจากนั้น ในงาน SAP Connect 2025 ยังได้เปิดตัว Joule ซึ่งเป็น AI สำหรับองค์กร ที่สามารถกำหนดบทบาทได้ตามหน้าที่ของงานในสายธุรกิจ (Role-based Assistants) ไม่ว่าจะเป็น HR, Finance, Procurement, Supply chain และ Customer experience

• Joule ที่เป็น AI สำหรับองค์กร จะทำอะไรได้บ้าง?

SAP บอกว่า Joule จะเป็นทั้งผู้ช่วยและเป็น AI ที่ทำงานร่วมกันกับมนุษย์ โดยหน้าที่หลักคือการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ระบบนิเวศข้อมูล (data ecosystem) และใช้ในการวิเคราะห์เชิงลึกขององค์กร รวมถึงจะได้นำไปคาดการณ์และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงล่วงหน้าในยุคที่การทำธุรกิจผันผวน

ในงานนี้ SAP ยังเปิดเผยอีกว่า Joule (AI) จะเชื่อมโยงข้อมูล (data) และแอปพลิเคชั่นจากทั่วทั้งระบบ SAP Business Suite เพื่อเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะยุคใหม่ที่เข้าใจบทบาท (Role-aware Assistants) ของผู้ใช้แต่ละคนในธุรกิจอย่างแท้จริง โดย Joule ออกแบบมาเพื่อให้ทำงานเคียงข้างมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่การปลดล็อกศักยภาพใหม่ๆ ด้านข้อมูลเชิงลึกและประสิทธิภาพการทำงานได้เต็มที่

Business Data Cloud คือคำตอบของโลกธุรกิจยุคใหม่

เรามักพูดกันว่า “ข้อมูลคือเชื้อเพลิงสำคัญที่เป็นพลังในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของ AI” แต่ในความเป็นจริง ข้อมูลมักถูกแยกเก็บไว้ในระบบต่างๆ ในรูปแบบที่เรียกกันว่า data silos ภายในองค์กร

ในงาน SAP Connect ครั้งนี้ SAP บอกว่า ขอแก้ปัญหาและอุปสรรคเหล่านี้ ด้วยการเปิดตัว SAP Business Data Cloud Connect (SAP BDC Connect) โซลูชั่นที่เชื่อมต่อ SAP Business Data Cloud (SAP BDC) เข้ากับแพลตฟอร์มของพันธมิตรได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงธุรกิจ (business-ready data products) ได้แบบสองทางข้ามขอบเขตของทั้งองค์กรและเทคโนโลยี

อธิบายในทางเทคนิคคือ ด้วยการแชร์ข้อมูลแบบ zero-copy sharing ข้อมูลจะยังคงปลอดภัยอยู่ในระบบของ SAP แต่สามารถเข้าถึงได้ทันทีจากแพลตฟอร์มข้อมูลเดิมของลูกค้า โดยคงบริบททางธุรกิจไว้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการคัดลอก แน่นอนว่า ผลลัพธ์ที่ได้คือ การแยกเก็บข้อมูลน้อยลง ขั้นตอนการทำงานง่ายขึ้น ไม่มีการซ้ำซ้อนของข้อมูล และได้ข้อมูลที่เชื่อถือได้เมื่อและที่ต้องการใช้

นอกจากนี้ SAP ยังประกาศว่า Databricks และ Google Cloud คือพันธมิตรรายแรกที่เปิดใช้งานร่วมกับ SAP BDC Connect โดยจะมีพันธมิตรเพิ่มเติมตามมาในอนาคต

ทั้งนี้ ตามที่ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 SAP Databricks จะยังคงเป็นบริการข้อมูลภายใน SAP Business Data Cloud ขณะที่ SAP BDC Connect จะขยายศักยภาพนี้ไปยังระบบนิเวศข้อมูลแบบเปิด พันธมิตรเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกสำหรับ การวิเคราะห์และ AI ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้ทีมสามารถเปลี่ยนจากข้อมูลดิบไปสู่ ผลลัพธ์ทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ ได้อย่างรวดเร็วและเรียบง่ายกว่าเดิม

มี AI มี Data ต้องเอาไปใช้ได้จริง

สิ่งที่โดดเด่นและเป็นหัวใจของ SAP คือ “แอปพลิเคชั่นสำหรับองค์กร” ซึ่งนี่เป็นทั้งจุดกำเนิดของข้อมูลและเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้ได้สัมผัสพลังของ AI และข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์

SAP Supply Chain Orchestration คือโซลูชันใหม่ที่พัฒนาโดยใช้ AI เป็นแกนหลัก (AI-native solution) ซึ่งผสานพลังของ Joule เข้ากับ live knowledge graph เพื่อช่วยตรวจจับความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ในห่วงโซ่อุปทานหลายชั้น และประสานการตอบสนองอย่างเป็นระบบ ช่วยให้องค์กรลดต้นทุนและรักษาความต่อเนื่องของการดำเนินงานในห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SAP Engagement Cloud โซลูชันประสบการณ์ลูกค้ารุ่นใหม่ ใช้บริบททางธุรกิจที่สำคัญ (business-critical context) เพื่อปรับการสื่อสารและการมีส่วนร่วมให้เหมาะกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละรายอย่างเฉพาะตัว

ขณะเดียวกัน SAP Ariba รุ่นถัดไป ซึ่งเป็นชุดโซลูชั่นจัดซื้อจัดจ้าง (procurement suite) ที่พัฒนาโดยใช้ AI ตั้งแต่ต้น (AI-native) ก็ช่วยเสริมความฉลาดในทุกขั้นตอนของการบริหารจัดการการใช้จ่าย ตั้งแต่การจัดหาแหล่งซัพพลาย ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้จัดจำหน่าย

โดยรวมแล้ว นวัตกรรมใหม่เหล่านี้ใน SAP Business Suite ถือเป็นการเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ข้อมูล และแอปพลิเคชัน ที่เกื้อหนุนกันและกัน เพื่อผลักดันความ ชาญฉลาด ความรวดเร็ว และความยืดหยุ่น ในการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคำพูดที่ชัดเจนและทรงพลังจากงาน SAP Connect 2025 ก็คือ “สิ่งที่ SAP กำลังทำทั้งหมดนี้ จะเป็นการปฏิวัติรูปแบบการดำเนินธุรกิจครั้งใหม่อย่างแน่นอน”

• SAP ช่วยองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปลดล็อกศักยภาพด้วย Business AI

หมายเหตุ – Brand Inside เป็นสื่อที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน SAP Connect 2025 ซึ่งเป็นงานใหญ่ครั้งแรกของ SAP ผู้นำระดับโลกด้านแอปพลิเคชั่นสำหรับองค์กรและ Business AI ซึ่งจัดขึ้นที่ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา