แสนสิริ ตั้งเป้าเบอร์ 1 บ้านเดี่ยว Top 3 ทาวน์เฮ้าส์ใน 3 ปี มอง LTV ไม่กระทบอสังฯแนวราบ

สถานการณ์เศรษฐกิจปีนี้ไม่ค่อยดีนัก GDP ไม่เป็นไปตามเป้า ส่งออกอาจไม่มีการเติบโต หรือแย่ที่สุดอาจติดลบ ทำให้หลายธุรกิจในประเทศเริ่มถูกจับตามองว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ปกติแล้วจะเติบโตสูงกว่า GDP ประมาณ 1.5 เท่า (ถ้า GDP โต 3% อสังหาฯ​ จะโตประมาณ 4.5%) แต่คำถามคือ ปีนี้จะรักษาการเติบโตไว้ได้หรือไม่

แสนสิริ เชื่อครึ่งปีหลัง 2019 จะดีขึ้น

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บอกว่า แสนสิริ เชื่อว่าครึ่งปีหลังภาพรวมอสังหาฯ จะดีขึ้น อย่างน้อยการมีรัฐบาลแล้วน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ไม่ว่าจะเป็นกระตุ้นส่งออก กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย โครงการ EEC ล้วนส่งผลดีทั้งสิ้น การประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีส่วนช่วยมาก และเชื่อว่าหลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศลดดอกเบี้ยรอบสองไปแล้ว ไทยน่าจะมีทิศทางเดียวกัน

ภาพรวมตลาดอสังหาฯ​น่าจะยังอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะแนวราบ ที่ตลาดยังมีเรียล ดีมานด์​ (Real Demand) หรือความต้องการจริงอยู่ ไม่ได้เป็นการซื้อเพื่อลงทุน

มาตรการ LTV กระทบนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม มาตรการ LTV หรือ Loan-to-Value กล่าวคือ ถ้าเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกไม่ถึง 3 ปี จะกู้หลังที่ 2 ต้องใช้เงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 20% หรือถ้ายังผ่อนบ้านหลังแรกอยู่ หลังที่สองต้องดาวน์ไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งถือเป็นมาตรการที่แบงก์ชาติเข้มงวดการปล่อยเงินกู้อสังหาฯ มากขึ้น

อุทัย บอกว่า มาตรการ LTV น่าจะกระทบกับตลาดคอนโดฯ เป็นหลัก เพราะคอนโด เป็นอสังหาฯ ที่นักลงทุนให้ความสนใจแทนการเล่นหุ้น, กองทุน หรือทอง แต่พอมีเรื่อง LTV น่าจะกระทบพอสมควร แต่กับอสังหาฯ แนวราบ เช่น บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์

ดังนั้น จะเห็นว่าปีนี้ แสนสิริ ลดโครงการคอนโดฯ ที่จะเปิดตัวไป 4 โครงการตั้งแต่ต้นปี ซึ่งตามปกติจะเปิดตัวโครงการใหม่ต้องมั่นใจว่าขายได้ 30-40% ถ้าศึกษาตลาดแล้วว่ายังไม่พร้อมก็เลื่อนไปก่อนดีกว่า เพราะนี่คือ ธุรกิจที่ต้องมองกันยาวๆ ประกอบกับ แสนสิริ เร่งปล่อยคอนโดฯ ค้างสต็อกออกมามากตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาด้วย ทำให้ภาพรวมยังเป็นไปตามเป้า

แนวโน้มไปได้ดี ของเป็นเบอร์ 1 บ้านเดี่ยว Top3 ทาวน์เฮาส์ใน 3 ปี

อุทัย บอกว่า ครึ่งหลังของปีนี้ แสนสิริ เตรียมตัวเพิ่ม 16 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท กุญแจสำคัญอยู่ที่แนวราบ โดยมีทั้งหมด 10 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายโครงการแนวราบทั้งปี 15,000 ล้านบาท และเป้าหมายการโอนโครงการแนวราบ 16,500 ล้านบาท

ถ้ามองครึ่งปีแรก 2019 แสนสิริมีรายได้ 10,924 ล้านบาท กำไร 689 ล้านบาท อยู่ในระดับเดียวกับครึ่งปีแรก 2018 และยังมี back log รวมกว่า 55,210 ล้านบาท แบ่งเป็นของแสนสิริเอง 32,737 ล้านบาท และที่ทำร่วมกับพันธมิตรกว่า 22,473 ล้านบาท

ดังนั้นเป้าหมายในปีนี้ 32,000 ล้านบาท ถือว่ายังอยู่ในเป้าหมายที่วางไว้ และยังอยู่บนเส้นทางที่ แสนสิริ ตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ในตลาดบ้านเดี่ยว และ Top3 ในตลาดทาวน์เฮาส์ ภายใน 3 ปี

สรุป

มาตรการ LTV กระทบโดยตรงกับนักลงทุน แต่น่าจะเน้นในกลุ่มคอนโดฯ​เป็นหลัก โดยแสนสิริ ระบุว่าอสังหาฯ แนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ยังมี Real Demand อยู่ แต่แบงก์ชาติก็ต้องทบทวนด้วยว่ามาตรการที่ออกมามีผลอย่างไร และเชื่อว่า มีแนวโน้มที่จะประกาศลดดอกเบี้ย (ตามสหรัฐฯ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น ครึ่งหลังปี 2019 แม้จะมีปัจจัยลบอยู่เยอะ แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ​น่าจะช่วยได้บ้าง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา