อยากยั่งยืนต้องปรับองค์กรให้ร่วมสมัย “แสนสิริ” จึงวางแผนใช้ระบบ Agile ทั้งบริษัทใน 3 ปี

แนวคิด Agile ถูกประยุกต์ใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ในระดับโลกมากขึ้น เพราะความเร็ว และความคล่องตัวในการบริหาร ซึ่งการวางแผนแบบนี้กำลังไหลเข้ามาในไทย โดยมี “แสนสิริ” เป็นองค์กรใหญ่รายแรกๆ ที่ใช้กลุยทธ์นี้

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ

Agile เพื่อเพิ่มความเร็ว และท้าทาย

ตอนนี้คนที่เป็นฟันเฟืองหลักของธุรกิจต่างๆ นั้นคือคนในช่วงวัย Millennial ซึ่งการจะบริหารคนกลุ่มนี้ให้ทำงานในบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพจะมาคิดแบบคน Generation X หรือ Baby-Boomers ก็คงไม่ได้ เพราะพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ กับคนรุ่นเก่านั้นต่างกันสิ้นเชิง

และเมื่อเป็นอย่างนี้ทำให้การบริหารงานในองค์กรแบบ Agile ที่มีมาเกิน 20 ปีถูกให้ความสำคัญจากองค์กรขนาดใหญ่มากขึ้น เพราะมันช่วยเพิ่มความเร็ว, ความท้าทาย พร้อมกับล้างความ Hirachy เดิมๆ ออกจากองค์กร ซึ่งค่อนข้างถูกจริตกับคนวัย Millennial เป็นอย่างมาก

แผนการทำงานแบบ Agile ของ แสนสิริ

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้บริษัทนำการทำงานแบบ Agile มาใช้ราว 3 เดือนแล้ว โดยอยู่เฉพาะส่วนงานเกี่ยวกับ High Rise หรือที่พักอาศัยแนวสูง ซึ่งในทีมจะรวมทุกแผนกที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ออกแบบ, ก่อสร้าง, การตลาด, การขาย, โฆษณา และอื่นๆ เพื่อทำงานไปพร้อมๆกัน

70% เป็น Millennial ถ้าไม่ปรับก็อยู่ยาก

“70% ของพนักงานในบริษัท 2,500 คนเป็น Millennial ดังนั้นถ้าเราไม่ปรับตัว มันก็ยากต่อการทำธุรกิจ เพราะพวกเขาเป็นฟันเฟืองหลัก และเมื่อบริษัทไม่ตอบโจทย์ พวกเขาก็คงไปที่อื่น ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง แม้มันจะยาก เนื่องจากกระทบทั้งองค์กร และคนบางกลุ่มก็ปรับตัวไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องทำ”

ในแต่ละ Squad จะประกอบด้วยทีมจากหลายๆ แผนกมารวมกัน

สำหรับการเดินหน้า Agile ของ “แสนสิริ” ในฝั่ง High Rise จะประกอบด้วยพนักงานทั้งหมด 300 คน โดยแบ่งคนเหล่านั้นเป็น 12 กลุ่ม หรือ Squad ที่รวมคนจากแผนกต่างๆ เอาไว้ และในแต่ละ Squad จะรับผิดชอบเฉลี่ย 3 โครงการ ซึ่งหลังจากเริ่มใช้มา 3 เดือนก็พบว่าการทำงานเร็วขึ้นอย่างชัดเจน

ในทางกลับกันปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากการทำงานแบบเป็นแผนก หรือ Silo ก็จะมีหัวหน้างาน กับลูกน้อง แต่พอเป็นการทำงานแบบ Agile หัวหน้าบางคนก็ไม่มีลูกน้อง แถมยังต้องไปทำ Report ให้พนักงานที่เป็นระดับต่ำกว่าที่อยู่แผนกอื่นในทีมเดียวกัน ซึ่งก็มีบ้างที่รับไม่ได้ และบางส่วนก็พร้อมที่จะปรับตัวเหมือนกัน

การทำ Agile ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น 10-20%

3 ปีกับการยกเครื่อง Agile ทั้งองค์กร

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงระยะแรกของการปรับตัวภายในองค์กรแสนสิริ เพราะแผนจริงๆ คือการนำการทำงานแบบ Agile ไปใช้งานทั้งองค์กร โดยเริ่มต้นที่ High Rise ก่อน เพราะในคอนโดมิเนียมนั้นมีเทคโนโลยี และการออกแบบที่ต้องอาศัยคนจำนวนมากมาช่วยกันคิด หลังจากนั้นจะกระจายไปที่ทีมอื่นๆ ทั้งองค์กรในระยะเวลา 3 ปี

“ถัดจากทีม High Rise เราก็จะไปที่ทีม Low Rise ที่มีบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ซึ่งเราก็ปูพรมพวกเขามาระดับหนึ่งแล้ว ผ่านการอบรมการทำงาน พร้อมแสดงตัวอย่างของทีมก่อนให้ดู หลังจากนั้นเราก็จะกระจายไปฝ่ายอื่นๆ ด้วย เพื่อให้กลายเป็น Agile ทั้งองค์กร และเป็นองค์กรแรกของโลกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำแบบนี้”

เริ่มต้น Agile ที่กลุ่มคนทำงานเกี่ยวกับ High Rise ก่อน หลังจากนั้นจะกระจายไปส่วนอื่นๆ

ส่วนการลงทุนปรับองค์กรครั้งนี้ หลักๆ จะอยู่ที่เรื่องการอบรมพนักงาน และการปรับที่ทำงานเพื่อให้รองรับการทำงานแบบเป็นกลุ่มมากขึ้น เช่นการจัดโต๊ะ และห้องประชุมแบบใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้บริษัทคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีก 10-20% ซึ่งจะส่งผลในการทำตลาดที่พักอาศัยที่เร็ว และดีขึ้น

สรุป

การทำงานแบบ Agile ถือเป็นอีกทางรอดขององค์กรธุรกิจในยุคนี้ เพราะมันช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น และน่าจะออกมาตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่สุด เพราะมีหลายๆ คนที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านช่วยกันตัดสินใจ ส่วนการนำไปประยุกต์ใช้อาจต้องสร้างความลำบากสักนิดในองค์กรใหญ่ เพราะเมื่อคนมาก การเปลี่ยนก็จะยาก

ส่วนใครอยากเข้าใจการทำงานแบบ Agile มากกว่านี้ Brand Inside มีรวบไว้ให้แล้วครับ คลิกที่นี่ได้เลย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา