นอกจากเรื่องสถานที่, การออกแบบ และราคาจะเป็นตัวแปรในการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมของผู้บริโภคแล้ว “แสนสิริ” ยังมองว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะตัว IoT หรือ Internet of Things ก็เป็นอีกตัวดึงดูดลูกค้าที่สำคัญ
ศึกษามาแล้วว่า Demand ตรงนี้มันมี
ก่อนหน้านี้การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมายกระดับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในที่พักอาศัยนั้น “แสนสิริ” เคยใช้มาทั้งในบ้านเดี่ยว และในคอนโดมิเนียมบางแห่งแล้ว แถมยังสำรวจพบว่าผู้บริโภคต่างต้องการเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อมาทำให้การใช้ชีวิตภายในที่พักอาศัยดีขึ้นกว่าเดิม
ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล บมจ.แสนสิริ เล่าให้ฟังว่า โครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จหลังจากปี 2562 เป็นต้นไปจะมีการติดตั้งเทคโนโลยี IoT เอาไว้เป็นอย่างน้อย เช่นตัวเซ็นเซอร์ควบคุมประตูหนีไฟ รวมถึงการปิดไฟดวง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
“โครงการแรกที่เราติดตั้ง IoT ทั้งระบบคือ The Line อโศก-รัชดา ทึ่ปัจจุบันขายหมดแล้ว และ 40% โอนให้กับผู้ซื้อเรียบร้อย ซึ่งนอกจากระบบ IoT ที่ติดตั้งไว้ ก็จะมีระบบตรวจสอบบุคคลภายนอกที่เข้ามาในอาคาร รวมถึงการให้เช่าใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปที่ต่างๆ ได้ด้วย”
3 ระดับกับการติดตั้งเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตามการติดตั้งเทคโนโลยีในคอนโดมิเนียมของ “แสนสิริ” นั้นไม่ได้ทำเหมือนกันทั้งหมดทุกโครงการ เพราะจะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ IoT-Enabled, Building Information System และ Smart Condo ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มากขึ้นตามลำดับ
สำหรับโครงการที่ “แสนสิริ” ได้รับแรงบันดาลใจเพื่อพัฒนา Smart Condo คืออาคารสำนักงาน The Edge จากเนเธอร์แลนด์ เพราะที่นั่นมีระบบ Automation รวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยผ่านเซ็นเซอร์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับอาคารที่พักอาศัยได้
เทรนด์ IoT และเทคโนโลยีใหม่ๆ ยังต้องไปต่อ
ในทางกลับกันการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของบริษัท รวมถึงค่าใช้จ่ายที่อาจจะตามมาของผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียม นั้นไม่ได้มีผลต่อการติดตั้งระบบ IoT และเทคโนโลยีอื่นๆ แต่อย่างใด เพื่อประโยชน์ และความสุขของผู้พักอาศัยย่อมเป็นค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า
สรุป
IoT จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะหลายๆ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มนำมาติดตั้งในโครงการ พร้อมกับโฆษณาเรื่องนี้ว่าเป็นจุดแตกต่างกับโครงการอื่นๆ เพื่อจูงใจผู้บริโภค แต่ช่วงนี้อาจเพลาๆ ไปบ้าง เพราะบางรายก็เริ่มไม่เน้นเรื่องนี้แล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา