นวัตกรรมดึงดูดคนซื้อคอนโดฯ “แสนสิริ” ลงทุน 100 ล้านติดตั้งเทคโนโลยี ล่าสุดคือลำโพงอัจฉริยะ

ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเทคโนโลยีเกือบทุกรายต่างส่ง Smart Speaker หรือลำโพงอัจฉริยะ มารับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แต่ที่เครื่องนี้ยังไม่นิยมในไทย เพราะพูดฟังไทยไม่ได้ ทำให้ “แสนสิริ” ตัดสินใจพัฒนาเครื่องนี้ขึ้นเอง

นวัตกรรมคือเรื่องที่อสังหาฯ ต้องพัฒนา

นอกจากเรื่องงานดีไซน์ และมาตรฐานด้านโครงสร้าง ปัจจุบันผู้เล่นในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ต่างเข้ามาศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง Property Technology (PropTech) เนื่องจากนวัตกรรมกลายเป็นอีกตัวแปรสำคัญในการเลือกซื้อที่พักอาศัยของผู้บริโภค

ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี และวิเคราะห์ข้อมูล บมจ.แสนสิริ เล่าให้ฟังว่า กลุ่ม Millennial คืออีกลูกค้ากลุ่มสำคัญของบริษัท เพราะตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับ B (ติดรถไฟฟ้า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย) เช่น The Line ผู้ซื้อส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มนี้

ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล บมจ.แสนสิริ

และเมื่อ Millennial ชื่นชอบนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต ทำให้ “แสนสิริ” ได้ลงทุนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในปีนี้กว่า 100 ล้านบาท เช่นสร้าง Application เพื่อติดต่อลูกบ้าน รวมถึงติดตั้งระบบ Automation ต่างๆ ภายในโครงการ และล่าสุดคือการผลิต Smart Speaker เพื่อใช้งานในโครงการ

Sansiri AI Box ครั้งแรกของลำโพงคุยไทย

สำหรับ Smart Speaker ของแสนสิริ จะมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า Sansiri AI Box พัฒนาโดยร่วมมือกับบริษัท เดลิเทค จำกัด ภายใต้พื้นฐานการประมวลด้าน AI ของ Amazon Web Services เตรียมติดตั้งในโครงการระดับ B ตัวใหม่ภายในไตรมาส 2 ของปี 2561 จากนั้นจะขยายไปที่โครงการอื่นๆ ในระดับเดียวกัน

Sansiri AI box

“จุดเด่นของตัวนี้คือมันเรียนรู้ภาษาไทยมาระดับหนึ่ง ทำให้ตอบคำถามเบื้องต้นได้ เช่นสอบถามสภาพอากาศ และปิดเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง รวมถึงจองพื้นที่ส่วนกลางได้ด้วยภาษาไทย ที่สำคัญอุปกรณ์ตัวนี้เราติดตั้งให้ฟรีในห้อง เพียงแต่เจ้าของห้องต้องมีอินเทอร์เน็ตเพื่อให้อุปกรณ์ตัวนี้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ”

จับมือพาร์ทเนอร์เพิ่มประสิทธิภาพการใช้

ขณะเดียวกันยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ของไทยรายนี้ ยังเตรียมเจรจากับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อให้สิทธิประโยชน์พิเศษกับลูกบ้านในโครงการ เพราะในอนาคตอุปกรณ์ตัวนี้จะสามารถเรียกรถแท็กซี่ และจองใช้บริการภายนอกโครงการได้มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายได้เร็วๆ นี้

สรุป

หลายคนอาจมอง Smart Speaker ว่าเป็นอุปกรณ์เฉพาะ และคงไม่เป็นที่นิยมในวงกว่า แต่ส่วนตัวเชื่อว่าอุปกรณ์ตัวนี้จะปฏิวัติพฤติกรรมหลายๆ อย่างของผู้บริโภคได้ เพราะเพียงแค่พูดก็เนรมิตทุกอย่างขึ้นมาได้ ดังนั้นการขยับตัวครั้งนี้ของ “แสนสิริ” ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีเพียง 6 เดือน ก็น่าจะสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดนี้ได้ไม่มากก็น้อย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา