ซัมซุงชี้เทรนด์สมาร์ทโฮมมาแรง ดัน SmartThings ด้วย AI อัจฉริยะ เปลี่ยนการจัดการบ้านให้เป็นเรื่องง่ายในแอปเดียว

ปัจจุบันสมาร์ทโฟนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ตั้งแต่ตื่นนอน จนเข้านอน ซึ่งจะเห็นได้จากบริบทสำคัญ ๆ อย่างเช่น การสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรีที่หิวเมื่อไหร่กดสั่งผ่านสมาร์ทโฟนก็มีอาหารอร่อย ๆ มาเสิร์ฟถึงบ้าน หรือแม้แต่รถที่วันนี้อาจถูกควบคุมการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนสั่งเปิดแอร์ หรือปิดไฟได้ รวมไปถึงการทำบ้านให้กลายเป็นสมาร์ทโฮม สั่งปิด-เปิดไฟด้วยเสียง หรือควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ผ่านสมาร์ทโฟนเช่นกัน 

samsung

ดังนั้นหากจะเอ่ยถึงแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมโยงและควบคุมทุกสิ่งในบ้านได้โดยผ่านสมาร์ทโฟน อย่าง  SmartThings Application จากซัมซุง คงไม่ใช่แค่ตัวเลือกเสริมอีกต่อไป เพราะได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ยกระดับการใช้ชีวิตให้ทันสมัยตอบรับกระแสของสมาร์ทโฮมเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายอย่างไร้รอยต่อและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น และให้ความสำคัญกับคุณค่ากับการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและทำกิจกรรมด้านอื่นๆ 

เทรนด์ความนิยมดังกล่าวสะท้อนได้จากตัวเลขของซัมซุงที่ระบุว่า คนไทยสนใจใช้บริการสมาร์ทโฮมเพิ่มขึ้น โดยสะท้อนได้จากจำนวนผู้ลงทะเบียนผ่าน SmartThings application ของซัมซุงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 34% จากจำนวนผู้ใช้บริการ 2,390,000 ในปี 2023 จนปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นเป็น 3,190,000 คน  จากตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าแพลตฟอร์มอย่าง SmartThings ที่รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ภายในบ้านได้อย่างครบวงจร มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้คนสามารถจัดการบ้านได้อย่างง่ายดาย ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมส่วนตัว และประหยัดเวลาที่มีคุณค่าสำหรับครอบครัวมากยิ่งขึ้น

samsung

สอดคล้องกับ พรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ที่ให้ข้อมูลว่า “ปัจจุบันผู้บริโภคยุคนี้ต้องการเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างลื่นไหลและสะดวกยิ่งขึ้น การมี SmartThings ที่รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ภายในบ้านได้อย่างครบวงจร จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้คนสามารถจัดการบ้านได้อย่างง่ายดาย ซึ่งซัมซุงได้พัฒนา SmartThings มาอย่างต่อเนื่อง โดยผสานศักยภาพของแพลตฟอร์มร่วมกับเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับสมาร์ทโฮมยุคใหม่ให้อัจฉริยะมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างประสบการณ์แบบ Personalization ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น

  • การทำงานแบบอัตโนมัติ สามารถทำงานตามกิจวัตรของผู้ใช้ได้แบบอัตโนมัติ เช่น หากปิดไฟและปรับอุณหภูมิลงทุกครั้งที่ออกไปทำงาน SmartThings จะเรียนรู้พฤติกรรมนี้ และเริ่มสร้างรูปแบบการทำงานในลักษณะเดียวกันโดยอัตโนมัติ เพื่อประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 
  • การเข้าใจและเรียนรู้ ยิ่งใช้ SmartThings มากเท่าไร ระบบจะยิ่งเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้มากขึ้น เช่น ระบบจดจำได้ว่าคุณตื่นนอนหรือเข้านอนประจำเวลาใด และทำการเรียนรู้เพื่อปรับการตั้งค่าให้สอดคล้องกับพฤติกรรม เช่น ค่อย ๆ ปรับแสงให้สว่างในตอนเช้า หรือปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมก่อนเข้านอน 
  • จดจำและจำแนกเสียง SmartThings สามารถจดจำเสียงและระบุตัวผู้ใช้แต่ละคนได้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะสมกับสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว การแจ้งเตือนเชิงรุก AI สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งานของอุปกรณ์ได้ หากระบบตรวจพบสิ่งผิดปกติ เช่น ประตูเปิดทิ้งไว้ จะมีการแจ้งเตือนส่งให้ผู้ใช้ทราบและดำเนินการแก้ไขทันที 
  • การจัดการพลังงานอัจฉริยะ SmartThings ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ช่วยปรับการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

samsung

SmartThings Pro เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธุรกิจในยุคดิจิทัล

สำหรับภาคธุรกิจการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมและบริหารจัดการอุปกรณ์ในอาคารก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดย อภิรดี พหลเวชช์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศและลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงได้พัฒนา SmartThings Pro Solutions เพื่อยกระดับการจัดการอุปกรณ์ภายในอาคารหรือธุรกิจต่าง ๆ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือสำนักงาน ให้สามารถควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลและช่วยจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน”

samsung

โซลูชั่น SmartThings Pro จะช่วยเสริมศักยภาพให้ธุรกิจต่าง ๆ ควบคุมการใช้พลังงานและอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์และปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ ช่วยลดความซับซ้อนและสร้างความมั่นใจในการจัดการทุกระบบได้อย่างลงตัว โดยมีนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันได้แก่

samsung

การจัดการพลังงาน (AI-Based) ยกระดับการจัดการระบบปรับอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ และสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ทันสมัย โดยมี AI ช่วยวิเคราะห์อุณหภูมิที่เหมาะสม เป็นอีกช่องทางในการช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจเพื่อให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การควบคุมและเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลาย (Multi-Site Management) สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน SmartThings App, เว็บอินเตอร์เฟส หรือแดชบอร์ดของระบบ SmartThings Pro โดยโซลูชั่นนี้ยังสามารถผสานรวมกับระบบ API ระดับองค์กร (Enterprise API) เพื่อเชื่อมต่อและควบคุมระบบของพาร์ทเนอร์ได้อย่างง่ายดาย

และ การบำรุงรักษาระยะไกล (Remote Maintenance) SmartThings Pro Solutions ช่วยให้การจัดการอุปกรณ์ การควบคุมอัตโนมัติ การแก้ไขปัญหา การจัดการการเข้าถึง และการจัดการผู้เข้าถึงเป็นไปอย่างราบรื่น ครอบคลุมหลากหลายประเภทของอาคารและธุรกิจ รวมถึงการจัดการในอาคารที่พักอาศัย (Residential Buildings) เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ บ้านเดี่ยว และอาคารพาณิชย์ (Commercial Buildings) และตอบโจทย์การใช้งานในธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก โรงเรียน โรงแรม และห้องประชุม (Retail, School, Hospitality, และ Meeting Rooms) โดยเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการควบคุมระบบ AC นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ผ่านแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย 

แคมเปญ “One Samsung” เก็บช่วงเวลาอันมีค่าสำหรับทุกคน

ซัมซุงยังไม่หยุดแค่การพัฒนาเทคโนโลยี แต่ยังมุ่งเน้นการส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าผ่านแคมเปญ “One Samsung” ภายใต้แนวคิด “Never miss a thing with SmartThings” ที่นำเสนอเรื่องราวการใช้ชีวิตของครอบครัวในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและช่วงเวลาแห่งความประทับใจ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา “A Precious Moment” ที่สะท้อนถึงความสำคัญของการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว โดยมี SmartThings เป็นตัวช่วยให้ทุกกิจกรรมในบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ปลดล็อกความยุ่งยากและเพิ่มเวลาสำหรับสิ่งที่มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

ในยุคดิจิทัลนี้ เทคโนโลยีอย่าง SmartThings กลายเป็นมากกว่าเครื่องมือที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว ทำให้บ้านไม่เพียงแค่เป็นสถานที่อยู่อาศัย แต่กลายเป็นพื้นที่ที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของทุกคนในครอบครัว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา