คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘ซัมซุง’ บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ที่เหมือนว่าจะขยันพัฒนาอยู่เรื่อยๆ เพราะในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา กำไรพุ่งแรงมากขึ้นถึง 15 เท่า
จากรายงาน ผลประกอบการของซัมซุงในไตรมาส 2 ปี 2024 มีดังนี้
- รายได้ 74 ล้านล้านวอน (1.96 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.3%
- กำไร 10.4 ล้านล้านวอน (เกือบ 2.8 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1,452.2%
ที่สำคัญ ยอดกำไร 10.4 ล้านล้านวอนนี้ยังมากกว่าที่สำนักข่าว ‘Reuters’ คาดการณ์ไว้ถึง 1.6 ล้านล้านวอน (4.2 หมื่นล้านบาท)
สองปัจจัยหลักของการเติบโตคือกระแส AI ที่กำลังมาแรง ส่งผลให้ความต้องการในตลาด ‘Memory Chip’ สูงขึ้นตาม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของซัมซุงที่ขายได้ดีขึ้นจากปีที่แล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางซัมซุงบอกว่า ตัวเลขนี้เป็นการรายงานเบื้องต้นเท่านั้น และจะเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการแบบละเอียดต่อนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
กำไรพุ่งทะยานแค่ไหน ก็ยังมีเรื่องน่าเป็นห่วง
แม้ซัมซุงจะทำผลงานในช่วงครึ่งปีแรกของ 2024 ได้ดีขนาดไหน แต่ก็ยังไม่วายมีประเด็นให้จับตามอง ซึ่งเรื่องราวดังต่อไปนี้จะส่งผลกระทบต่อซัมซุงในอนาคตแน่นอน
ประเด็นแรกคือ การแข่งขันการผลิตชิป ‘HBM’ ระหว่าง ‘ซัมซุง’ และ ‘SK Hynix’
‘SK Hynix’ คือคู่แข่งหลักในเกาหลีใต้ของซัมซุง ซึ่งตอนนี้บริษัทดังกล่าวดันผลิตชิป ‘HBM’ หรือ ‘High-Bandwidth Memory’ ได้ดีกว่าซัมซุงไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบัน SK Hynix รับหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์ของ NVDIA คอยป้อนชิป ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการเขียนและฝึกฝน AI ให้กับบริษัทต่างๆ ใน ‘ซิลิคอนวัลเลย์’
ด้วยเหตุเช่นนี้ ทางซัมซุงจึงพยายามตีตื้นขึ้นมาด้วยการผลิต HBM ป้อนให้กับ NVIDIA เช่นกัน แต่ชิปของซัมซุงดูเหมือนจะยังไม่ผ่านการตรวจสอบ-รับรอง (Qualification Process) จากทาง NVIDIA และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะผ่านกระบวนการนี้ไปได้
ประเด็นที่สองคือการเปลี่ยนผู้บริหารด้านชิปเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุง
ซัมซุงเพิ่งจะเปลี่ยนผู้บริหารด้านชิปเซมิคอนดักเตอร์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่คนเก่าบริหารผิดพลาดทำให้บริษัทขาดทุนด้าน Memory Chip มาหลายไตรมาสนับตั้งแต่ปี 2022 และทำให้ซัมซุงไม่สามารถขึ้นเป็นเจ้าตลาด HBM ได้
ท้ายสุด ผลประกอบการแบบละเอียดที่ซัมซุงแจ้งว่าจะเผยนั้น คงออกมาดีดั่งที่ทุกคนหวังแน่นอน แต่ในระยะยาว ทางบริษัทจะสามารถต่อกรกับ SK Hynix ได้หรือไม่ และผู้บริหารคนใหม่จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นจริงหรือเปล่า เราคงต้องติดตามกันต่อไป
แหล่งที่มา: NIKKEI Asia / Investing.com / Korean JoongAng Daily
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา