6 เดือนหลังจากที่ถูกจับในข้อหาติดสินบน วันนี้ศาลกรุงโซลตัดสินจำคุก 5 ปี รองประธาน Samsung แล้ว ในแง่ธุรกิจก็น่าตั้งคำถามว่า จะกระทบต่อตัวธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน?
ภาพลักษณ์แบรนด์ Samsung กับคดีจำคุก
ลี แจ-ยอง รองประธานบริษัท Samsung Electronics ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี จากกรณีจ่ายเงินสินบนมูลค่าทั้งหมดกว่า 8,900 ล้านวอน (ประมาณ 260 ล้านบาท) ให้กับเพื่อนสนิทของอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ปาร์ก กึน-เฮ เพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ศาลกรุงโซลตัดสินว่า การอนุมัติเงินของลี แจ-ยอง รองประธาน Samsung ให้กับชเว ซูน ซิล เพื่อนของอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ปาร์ก กึน-เฮ ผ่านทางบริษัท German shell เป็นเงินกว่า 7,300 ล้านวอน ประกอบกับการให้เงินอีก 1,600 ล้านวอนผ่านธุรกิจศูนย์กีฬาของชเว ซูน ซิล เพื่อแลกกับการควบรวมกิจการของ Samsung เป็นการทำให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้น
ผู้พิพากษาคิม จิน-ดอง มองว่า “สาระสำคัญของคดีนี้คือการร่วมมือกันของความไร้คุณธรรมทางการเมืองกับบริษัทเอกชน … (เพราะตามกฎเกณฑ์) เราคาดหวังว่าอำนาจทางการเมืองจะถูกใช้เพื่อเป็นประโยชน์กับพลเมืองทุกคน”
แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะด้านทนายของลี ระบุว่า จะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาล พร้อมทั้ง “เชื่อมั่นว่าศาลจะกลับคำตัดสิน”
อย่างไรก็ตาม คำตัดสินนี้ตามมาหลังจากการที่ลีถูกจับกุมไปก่อนหน้า 6 เดือน ในข้อหาฉ้อฉลจากการติดสินบน แต่ในขณะนั้นลีได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ในแง่ของธุรกิจ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การขาดลีแจ-ยองไปจากบริษัท Samsung จะส่งผลต่อกลยุทธ์ของบริษัทอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทิศทางในด้านการลงทุน การควบรวม และการซื้อกิจการขนาดใหญ่ในระยะยาว เพราะถือเป็นการขาดหัวเรือใหญ่ของบริษัทไปในช่วงระยะเวลาหนึ่งเลย
แต่ในแง่ของผู้บริโภค ผลกระทบจะมากน้อยแค่ไหนจากภาพลักษณ์แบรนด์ ต้องจับตาดูกันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งความไม่โปร่งใส่หรือภาพของความไม่สุจริตในการดำเนินธุรกิจ แต่ถึงที่สุดแล้ว คงต้องถามคุณผู้อ่านในฐานะผู้บริโภค ก็น่าจะให้ภาพอะไรได้บางอย่าง
อ้างอิง – Nikkei Asian Review, Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา