ซัมซุง ประเทศไทย ยกระดับทักษะเทคโนโลยีให้เด็กไทยด้วยโครงการ Samsung Innovation Campus

จากการที่เทคโนโลยีเข้ามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ AI, Coding และการประยุกต์เรื่องที่เกี่ยวข้องไปต่อยอดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงการสร้างอาชีพในอนาคต ทำให้ ซัมซุง หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกต้องการเสริมสร้างให้ทุกคนมีทักษะดังกล่าวที่ดีกว่าเดิม

การเข้าไปสนับสนุนครั้งนี้ของซัมซุงไม่ใช่แค่ให้อุปกรณ์ หรือสิ่งของที่เกี่ยวข้อง แต่เป็นการมอบความรู้ผ่านโครงการ Samsung Innovation Campus หรือ SIC ที่จัดขึ้นทั่วโลก และมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น เพื่อยกระดับทักษะด้านเทคโนโลยีทั้ง AI และ Basic Coding ตั้งแต่ระดับเยาวชน

ซัมซุง ประเทศไทย เดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างไร ตั้งเป้าหมายไว้แค่ไหน รวมถึงฝั่งผู้สอน และผู้เรียนจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ คุณมาร์ค คิม ประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอดังนี้

Samsung Innovation Campus ยกระดับทักษะเทคโนโลยีในไทย

มาร์ค คิม ประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า จากการที่เด็กนักเรียนมีความต้องการเข้าถึงเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่ง AI และ Coding คือหนึ่งในนั้น การสนับสนุนพวกเขาด้วยโครงการ Samsung Innovation Campus หรือ SIC จึงเป็นคำตอบที่ดี

เพราะโครงการนี้มีการจัดขึ้นใน 36  ประเทศทั่วโลก และบริษัทแม่มีการสนับสนุนงบประมาณ รวมถึงทรัพยากรที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มรูปแบบ โดยให้อิสระกับแต่ละประเทศในการวางกลยุทธ์ ซึ่งประเทศไทยเลือกการสนับสนุนทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับเยาวชน และบุคคลทั่วไปผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์

ฝั่งของออนไลน์ ซัมซุง ประเทศไทย ได้เปิดคอร์สออนไลน์เพื่อเรียนรู้พื้นฐานในการเขียนโปรแกรมผ่านภาษา Python กับการประยุกต์ใช้ AI เพื่อการทำงาน ซึ่งทั้งสองคอร์สนี้เปิดให้เรียนฟรี และเมื่อเรียนจบจะมีประกาศนียบัตรเพื่อนำไปประกอบในการสมัครงานอีกด้วย

“คอร์สออนไลน์นั้นกินเวลากว่า 2 ชม. และมีการทำควิซที่จริงจัง เพื่อให้ผ่านการทดสอบทั้ง 2 คอร์ส ซึ่งหลังจากนี้จะมีคอร์สอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาทักษะทางเทคโนโลยีให้กับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นภาษาอื่น ๆ ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม หรือการนำ AI ไปประยุกต์ใช้กับศาสตร์แขนงอื่นๆ แต่ทั้งหมดนี้ยังฟรีเช่นเดิม”

เสริมฝั่งออฟไลน์ด้วยการสอนใน 10 โรงเรียน

ในทางกลับกันฝั่งออฟไลน์ ซัมซุง ประเทศไทย มีการร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. เพื่อคัดเลือก 10 โรงเรียนต้นแบบ ในการเข้าไปอบรมคุณครูให้มีความเข้าใจด้านเทคโนโลยี ควบคู่กับการพัฒนาการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้กับเด็กนักเรียนโดยตรง

“ด้วยการเรียนการสอนเกี่ยวกับ ICT ไม่ใช่ฮีโร่ของหลักสูตรการศึกษาในไทย ซัมซุงจึงอยากให้มีช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับ AI และไม่กลัวที่จะปรับใช้ ผ่านการปูพื้นฐานความรู้ และส่งต่อพวกเขาไปเรียนรู้ในฝั่งคอร์สออนไลน์เช่นกัน”

สำหรับการวัดผลในการเรียนการสอนในห้องเรียนจะทำผ่านวิธี Pre และ Post Test เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตร เช่น เรื่องการประยุกต์ใช้ AI ส่วนการต้องร่วมมือกับ สพฐ. เพราะต้องการได้โรงเรียนที่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี และมีครูที่สอนเกี่ยวกับ ICT ในโรงเรียน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการสอน

“เรามีข้อมูล และโมดูลในการเรียนการสอนค่อนข้างเยอะ ยิ่งตอนนี้เรื่องเทคโนโลยีไม่ได้ถูกแยกออกมาเป็นเรื่องไกลตัว เพราะมันคือเรื่องที่เราใช้งานเป็นประจำ และมีนวัตกรรมใหม่เพิ่มเข้ามาตลอดเวลา จึงน่าจะดีกว่าถ้าพวกเขามีความพร้อม แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ ครูผู้สอนก็ต้องมีความพร้อมเหมือนกัน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว”

สำหรับเป้าหมายของโครงการ Samsung Innovation Campus ในประเทศไทย มีเป้าหมายสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ กว่า 7,000 คน ผ่าน 10 โรงเรียน ส่วนในออนไลน์ ตั้งเป้าไว้ที่ผู้สมัคร 3,000 คน แต่ปัจจุบันมีผู้สมัครแล้วกว่า 10,000 คน และสิ้นปี 2024 อาจปิดได้ 20,000-30,000 คน

เปิดมุมมองครู และนักเรียนที่ร่วมโครงการ

สุจิตรา โสมนัส คุณครูวิทยาการคำนวณ และภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ หนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ Samsung Innovation Campus เล่าให้ฟังว่า เด็ก ๆ นั้นอาจรู้จักจากการพบเห็นบนโซเชียลมีเดีย แต่ยังไม่เคยใช้จริง ดังนั้นการให้พวกเขาเปิดใจ และเข้าใจการใช้งาน AI จึงจำเป็น

“เด็ก ๆ ได้ลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งเรามีการสอนให้พวกเขาลองพูดโต้ตอบกับ AI เป็นภาษาอังกฤษ และพวกเขาก็ค่อนข้างตื่นเต้นว่า AI ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ดังนั้นถ้าพวกเขาเข้าใจการใช้งาน และใช้มันอย่างถูกวิธี ย่อมสร้างโอกาสในอนาคตให้พวกเขาได้”

ส่วนการปรับกระบวนการคิด อาจเข้าใจได้ยากในช่วงแรก แต่หลังจากเรียนรู้ผ่านตัวอย่างที่ใกล้ตัว เช่น การให้จัดกีฬาสี พวกเขาวางกระบวนการได้ดีขึ้น ซึ่งการทำแบบนี้ช่วยให้พวกเขามีตรรกะ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเขียนโปรแกรมในอนาคตได้

ด้าน อินทุนิพา คำไวย์ นักเรียนชั้น ม. 3 ที่ร่วมโครงการดังกล่าว มองว่า การเรียนรู้อัลกอริทึม ช่วยให้การวิเคราะห์ และแก้ปัญหาทำได้ดีกว่าเดิม และอยากเข้ามาร่วมเรียนบ่อย ๆ แม้ตัวเองจะไม่ได้อยากทำอาชีพเกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคต แต่ทักษะการวิเคราะห์นั้นสามารถประยุกต์เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันได้

CSR ที่ไม่ใช่แค่ให้สิ่งของ แต่ให้ความรู้

มาร์ค คิม ย้ำว่า Samsung Innovation Campus คือหนึ่งในโครงการ CSR ของบริษัท แต่ไม่ใช่ CSR แบบดั้งเดิม เพราะแทนที่จะให้สิ่งของ แต่เป็นการให้ความรู้เพื่อสร้างทักษะ และโอกาสการใช้ใหม่ ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ในประเทศไทย

“การให้อุปกรณ์ก็คงเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ แต่จริง ๆ แล้วการให้ความรู้ที่สามารถนำไปพัฒนาในชีวิตประจำวัน และเพิ่มทักษะเทคโนโลยีให้พวกเขาย่อมเป็นการสร้างความยั่งยืนได้มากกว่าการให้สินค้า หรือการให้เงินทุน”

นี่คือรายละเอียดทั้งหมดของ Samsung Innovation Campus โครงการ CSR ที่ ซัมซุง ประเทศไทย เดินหน้าเพื่อยกระดับทักษะด้านเทคโนโลยีของเด็กไทย และคนไทยทุกคน เพื่อตอกย้ำว่า ซัมซุง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการปลดล็อกศักยภาพทางเทคโนโลยีได้จริง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Branded Content เป็นบทความที่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์