ปกติถ้าพูดถึงสังคมไร้เงินสด หรือการใช้ QR Code ในประเทศจีน เรามักจะนึกถึงแต่ในเมืองใหญ่ๆ ในจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หรือเซินเจิ้น แต่ล่าสุด จีนประกาศแล้วว่าภายในปี 2020 จะทำให้ชนบทที่ห่างไกล สามารถเข้าสู่ระบบสังคมไร้เงินสดได้ทั้งหมดเหมือนกับเมืองใหญ่ๆ ในจีน
ชนบทจีนจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดภายในปี 2020
แผนการผลักดันชนบทจีนเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (cashless society) เกิดมาจากหน่วยงานภาครัฐของจีนที่ประกอบไปด้วย 5 หน่วยงานหลักได้แก่ ธนาคารกลาง คณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารและการประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและชนบท
- เป้าหมายของแผนนี้ คือการทำให้ทุกหนทุกแห่งในชนบทจีนกลายเป็นสังคมไร้เงินสด ภายในปี 2020
จุดประสงค์สำคัญของการผลักดันให้ชนบทจีนเป็นสังคมไร้เงินสด เพราะต้องการทำให้ชาวชนบทจีนส่วนใหญ่ที่ทำอาชีพเกษตรกรรม สามารถเข้าถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านออนไลน์มากขึ้น ตั้งแต่ซื้อสิ่งของจำเป็นอย่างปุ๋ย เคมีภัณฑ์ ไปจนกระทั่งเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หรือจ่ายค่าเช่าที่ดินได้อย่างสะดวกสบาย
จากข้อมูลของธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า ในปี 2017 สถิติของผู้ใหญ่ชาวจีนในชนบทที่ใช้ digital payment มีอยู่ประมาณ 66.5% เท่านั้น (บางพื้นที่ในเมืองใหญ่ๆ ของจีน อัตราการใช้ digital payment เกือบ 100% แล้ว) เรียกได้ว่า การผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสดในชนบทจีนครั้งนี้ จะทำให้เกิดการเติบโตในทางเศรษฐกิจได้อีกมาก
- อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นนี้ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของการผลักดันชนบทจีนให้เป็นสังคมไร้เงินสด คือการทำให้คนในชนบทไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองใหญ่ไปหางานทำ (จากข้อมูลระบุว่า ปัจจุบันมีคนจีนที่อยู่ในชนบทถึง 42% ของประชากร) เพราะถึงที่สุดแล้ว การกระจายการเข้าถึงเทคโนโลยีไปสู่ชนบท คือการกระจายอำนาจในการจัดการชีวิตในทางหนึ่งนั่นเอง
สนามรบอีคอมเมิร์ซแห่งใหม่ในจีน คือ “ชนบท”
แน่นอนว่าจนถึงวันนี้ ถ้าพูดถึงการขยายฐานลูกค้าในธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเมืองใหญ่ของจีนคงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เพราะยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และ JD.com ครอบครองไว้อย่างเหนียวแน่น
แล้วหลังจากนี้ ใครจะเป็นเจ้าตลาดในชนบทจีน?
คำตอบก็คือ ตอนนี้ยังไม่รู้
แต่ถ้าไปดูการเตรียมการของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีน ซึ่งก็คือ 2 รายใหญ่หน้าเก่าจ้าเดิม ทั้ง Alibaba และ JD.com ต่างได้ลงทุนในชนบทจีน และทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นมาสักพักแล้ว เพราะทั้งคู่ต่างก็มองเห็นถึงการเติบโตทางธุรกิจในชนบทอีกมหาศาลในอนาคตอันใกล้
ส่วนยักษ์ใหญ่อีกรายอย่าง Tencent แม้จะไม่ใช่เจ้าตลาดอีคอมเมิร์ซ แต่ก็พร้อมรุกตลาดชนบทเช่นกัน โดยจะลุยด้วย Kuaishou (แอพพลิเคชั่นวิดีโอสั้นๆ คล้าย TikTok ที่ฮิตกันทั่วโลก) ซึ่งจากข้อมูลระบุว่า แอพนี้กำลังฮิตในชนบทจีน เพราะมีชาวนา-ชาวสวนจำนวนไม่น้อยที่ใช้แอพนี้ไลฟ์วิดีโอและขายสินค้า (คล้ายๆ กับของไทยที่ไลฟ์ Facebook ขายเสื้อผ้า)
ที่มา – Techcrunch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา