ข่าวลือสำหรับการควบรวมกิจการผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในสหรัฐของทั้งสองค่ายนี้อาจเทียบได้กับหนังชีวิตสักเรื่อง เพราะหลังจากดีลนี้ล่มไปเมื่อปลายปีที่แล้ว จนล่าสุดมีข่าวลือว่าทั้งสองอาจประกาศการควบรวมกิจการในอาทิตย์หน้า
แหล่งข่าวไม่ระบุชื่อได้กล่าวกับทาง Reuters ว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออันดับ 3 และ 4 อย่าง T-Mobile และ Sprint เตรียมประกาศการควบรวมกิจการในเร็วๆ นี้ ซึ่งขั้นตอนล่าสุดที่แหล่งข่าวที่ได้กล่าวนั้นคืออยู่ในเรื่องที่เจรจากันในส่วนของหนี้ของทั้ง 2 ฝ่าย
Sprint นั้นมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือทาง SoftBank ซึ่งถือหุ้นอยู่ประมาณ 85% ส่วนทาง T-Mobile มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือทาง Deutsche Telekom ถือหุ้นอยู่ 63%
โดยก่อนหน้านั้นดีลนี้เคยมีการเจรจาไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน แต่สุดท้าย CEO ของทาง SoftBank อย่าง Masayoshi Son เป็นคนล้มดีลนี้เองในนาทีสุดท้าย และหาทางเตรียมนำ SoftBank Mobile Japan เข้าตลาดหลักทรัพย์แทน หรือแม้แต่เอาเงินของ SoftBank Vision Fund มาถือหุ้น Sprint แทนด้วย
ถ้าหากดีลนี้สำเร็จจริงๆ จะทำให้เกิดบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือใหม่ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 127 ล้านคน ซึ่งสามารถสู้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในสหรัฐอันดับ 1 และ 2 อย่าง Verizon และ AT&T ได้อย่างสูสีมากขึ้น
อาจถึงเวลาที่ต้องควบรวมสักที
มีการคาดการณ์ว่า Sprint อาจกำลังถึงทางตันขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าหนี้ของ SoftBank ที่มหาศาลกว่า 147,000 ล้านเหรียญสหรัฐ อาจทำให้ทาง Sprint ลงทุนได้ลำบากมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงบลงทุนติดตั้งเสาสัญญาณ การทำตลาด หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ฉะนั้นช่วงนี้อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดของทาง SoftBank ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Sprint ในการเจรจากับทาง T-Mobile เพื่อที่จะควบรวมกิจการ
ข่าวลือก็คือข่าวลือ
แหล่งข่าวคนเดิมยังได้เตือนว่า ดีลนี้อาจล่มได้ทุกเมื่อ ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะว่าต้องคุยถึงรายละเอียดเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัดส่วนการถือหุ้น เรื่องของหนี้สินโดยเฉพาะฝั่ง Sprint
แต่ความเป็นไปได้ซึ่งดูท่าทีน่าจะดีกว่าตอนข่าวลือเมื่อตอนเดือนพฤศจิกายนคือ ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมระดมทุนสำหรับการควบรวมกิจการครั้งนี้
ส่วนอีกเรื่องที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องจับตามองคือเรื่องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอาจเข้ามาขวางการควบรวมกิจการนี้ก็เป็นได้ ซึ่งในปี 2014 เคยขวางดีลนี้มาแล้ว แต่สำหรับในยุคของปธน. ทรัมป์ อะไรๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้
ที่มา – Reuters, Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา