Royal House บริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี สั่งสมชั่วบินในการทำงานจนเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มีมาตรฐาน ได้รับความเชื่อถือจากเจ้าของบ้าน มาวันนี้ ศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ ของ Royal House ได้ผลักดันให้ โกศล โควิสุทธิ์ และ ประสงค์ โควิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการทั้ง 2 คน ซึ่งเป็น เจนเนอเรชั่นใหม่ ขึ้นมาบริหารจัดการงานมากขึ้น
เพื่อเป็นการชิมลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่การแข่งขันดุเดือดตลอดเวลา แม้จะอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน แต่ก็ต้องมีการเรียนรู้ ปรับตัว เพื่อรักษาการเติบโตและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารหนุ่มทั้ง 2 คน มองเห็นว่า ผู้บริโภคเป้าหมายกำลังเปลี่ยนจากอายุ 45 – 60 ปี มาเป็นกลุ่มที่มีอายุ 25 – 40 ปี แสดงว่าผู้ซื้ออายุน้อยลง ดังนั้นผู้สร้างบ้าน ก็ต้องมีการพัฒนาแบบในการสร้างบ้านให้สอดคล้องกับเจ้าของบ้าน
การหาแบบบ้าน ข้อมูลต่างๆ และตัดสินใจสร้าง เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ จากประสบการณ์ที่เห็นบ้านมามากกว่า 150 หลัง ทำให้ Royal House มองเห็นเทรนด์ว่า จากนี้ไป ในช่วง 3 ปีข้างหน้า 2017 – 2020 จะมีแบบบ้านที่ได้รับความนิยม 7 แบบ ดังนี้
1 Eco Friendly บ้านประหยัดพลังงานและรักษ์โลก: จุดประสงค์หลักคือการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าโดยไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม บ้านประเภทนี้จึงมักถูกออกแบบให้โปร่ง โล่ง สบาย เพื่อรับลมและความเย็นจากธรรมชาติ ป้องกันความร้อนที่จะสะสมในบ้าน เน้นวิถีทางธรรมชาติ (Passive Cooling) เป็นหลัก ผสมผสานการออกแบบที่ทำให้เกิดความเย็น ด้วยเทคโนโลยี (Active Cooling) รวมทั้งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเก็บเป็นพลังงานทดแทน ซึ่งจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน
2 Small is cool บ้านพื้นที่เล็กแต่ประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า: แนวโน้มคนต้องการบ้านหลังเล็กลง แต่ตอบสนองความต้องการได้อย่างลงตัว ลดทอนห้องบางห้องที่ใช้ประโยชน์น้อยที่สุดออก หรือรวมห้องบางห้องเข้าด้วยกันแล้วใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น
3 Home Tech บ้านอัจฉริยะ: อนาคตทุกบ้านจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย โดยคาดว่าปี 2020 บ้านที่สร้างใหม่ทุกหลังจะเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง เช่น การควบคุมระบบไฟด้วยรีโมต, Gesture Control หรือการสั่งการด้วยเสียง รวมถึงขั้นตอนการสร้างบ้านและนวัตกรรมการสร้างบ้านที่มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่หรือเทคนิคการสร้างแบบใหม่เข้ามาใช้ เช่น บ้านโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นบ้านที่ออกมาตรงตามความต้องการ
4 Elderly Care บ้านสำหรับผู้สูงอายุ: ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรสูงวัยมากที่สุดในอาเซียน โดยคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ตามมาด้วยสิงคโปร์ 9% และอินโดนีเซีย 7% ซึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุของไทยจะมีจำนวนมากถึง 20% ของประชากรทั้งประเทศ การสร้างบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุจึงต้องออกแบบและปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุด้วย เนื่องจากใน 1 วัน ผู้สูงอายุมักจะใช้เวลาอยู่ในบ้านไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง “บ้าน” จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้สูงอายุ
5 Cluster บ้านหลายหลังในพื้นที่เดียวกัน: แนวโน้มของราคาที่ดินที่สูงขึ้น และความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยที่เริ่มกระจายตัวออกไปเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดความนิยมสร้างบ้านที่ใช้พื้นที่ส่วนรวมด้วยกัน มักเป็นบ้านของพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว หรือพี่น้อง และพื้นที่ส่วนรวมของบ้านก็มักจะเป็น ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ หรือสวนของบ้านนั่นเอง รวมถึงอาจเป็นการขยายไปแนวสูง คือ หลายชั้นแต่มีส่วนบริการและสันทนาการร่วมกัน เช่น สระว่ายน้ำ ห้องทานอาหาร ฟิตเนส
6 Back to nature บ้านอิงธรรมชาติ: คนในยุคปัจจุบันรักตัวเอง รักสุขภาพ และรักธรรมชาติกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความนิยมการสร้างบ้านแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น บ้านแบบเปิดโล่งเพื่อรับลมและรับแสงธรรมชาติ แบ่งพื้นที่ทำสวน ปลูกผัก ปลูกสมุนไพร โดยบ้านจะต้องมีพื้นที่ส่วนนอกที่ไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามากเพื่อให้ได้สามารถใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ในทุกวัน
7 Personalization Selected บ้านตามความต้องการส่วนบุคคล: บ้านต้องตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคลให้มากขึ้น โดยอิงกับเทรนด์ของการลดขนาดบ้านและการลดทอนห้องบางห้อง เช่น บางบ้านไม่มีห้องรับแขกแต่มีห้องซ้อมดนตรีของพ่อกับลูกชาย บางบ้านไม่มีห้องทานอาหาร แต่มีห้องสมุดและห้องทำงานของทุกคน นำมาซึ่งการสร้างบ้านแบบ Open Plan ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างหลากหลายตามความต้องการของแต่ละบุคคล
นอกจากแบบการสร้างบ้านแล้ว ยังมีเทรนด์การตกแต่งบ้านที่น่าสนใจดังนี้
- เน้นความสำคัญของห้องน้ำมากขึ้น: ใช้เวลามากขึ้นในห้องน้ำสำหรับการอาบน้ำและดูแลตัวเองเพื่อสร้างช่วงเวลาของการผ่อนคลาย โดยจะมีการใช้อ่างอาบน้ำ และติดตั้งจอโทรทัศน์ในห้องน้ำเพิ่มมากขึ้น
- เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สอยได้หลากหลาย: เฟอร์นิเจอร์ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ที่พื้นที่เล็กลง แต่ใช้งานได้คุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมนำหน้าการบิลด์อินและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่
- สร้างสีสันด้วย LED: ไฟ LED จะเข้ามาเติมเต็มจินตนาการแนว sci-fi ให้กับบ้าน สร้างสีสันและบรรยากาศที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา จนเป็นงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งของบ้าน
- เพิ่มโต๊ะทานข้าวในห้องครัว: ห้องครัวจะถูกใช้งานเพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากการใช้ประกอบอาหารเพียงอย่างเดียว ใช้เป็นสถานที่ทานข้าวของครอบครัวไปด้วย โดยเพิ่มพื้นที่และโต๊ะสำหรับทานข้าว เป็นการประหยัดพื้นที่และค่าใช้จ่าย สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้กับครอบครัวอีกด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา