Royal Beauty: ปันรอยยิ้ม สู้โควิด พร้อมแนวทางเดินหน้าช่วยเหลือคู่คนไทย

ในช่วงวิกฤตโควิดระบาดหนักทั่วประเทศขนาดนี้ แนวทางที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของทุกคนได้คือการที่ทุกๆ คน รวมถึงองค์กร ที่ยังคงมีกำลัง มีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยเหลือผู้อื่นในยามทุกข์ยาก ต้องหันมาช่วยกันลงแรง ลงใจออกมาช่วยกัน เพื่อให้เราฝ่าฟันวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ เสียงสะท้อนจากผู้บริหารหนุ่ม เฉลิมพงษ์ ศรีโรจนันท์ กรรมการผู้บริหาร บ. ไลฟ์สตอรี่ (รอยัลบิวตี้) จำกัด และ บ. สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Royal Beauty 

Royal Beauty

จุดเริ่มต้นของแคมเปญ Royal Beauty: ปันรอยยิ้ม เพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่สังคมเกิดขึ้นด้วยเหตุใด

บ. ไลฟ์สตอรี่ มีนโยบายที่จะทำสิ่งดีๆคืนสู่สังคมอย่างต่อเนื่องเสมอมา โดยที่ผ่านมา มีการร่วมกับมูลนิธิต่างๆเช่น Operation Smile Thailand ช่วยเหลือเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ โดยจะช่วยทำการผ่าตัดให้ผู้ป่วยเดือนละ 1คน อย่างต่อเนื่องมาตลอด และมีการบริจาคสินค้าให้กับมูลนิธิต่างๆเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ด้อยโอกาสมาอย่างสม่ำเสมอ

ในสภาวการณ์โควิดระบาดในรอบนี้ ทุกๆ วันมีแต่ข่าวสารที่ทำให้รอยยิ้มเลือนหายไปจากพี่น้องคนไทย เราจึงคิดอยากทำแคมเปญ ‘ปันรอยยิ้ม’ ขึ้น เพื่อสร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้คน ด้วยการแบ่งปันน้ำใจส่งมอบเงินช่วยเหลือ ของใช้จำเป็นให้กับมูลนิธิทางการแพทย์ มูลนิธิจิตอาสาต่างๆ ทั้งบุคลากรด่านหน้า แพทย์ พยาบาล และรวมถึงบุคคลทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานเก็บขยะ พนักงานขับรถ ขสมก. พ่อค้าแม่ค้า ฯลฯ

Royal Beauty

เป้าหมายหลักแห่งแรงขับเคลื่อนของโครงการ Royal Beauty: ปันรอยยิ้ม คืออะไร

“ช่วงเวลาแบบนี้อยากให้ทุกคนยื่นมือช่วยเหลือกัน ทำในแบบที่คุณทำได้ ทำให้เต็มที่ในแบบที่แต่ละคนทำไหว ถ้ามันเต็มที่แล้ว แค่ส่งรอยยิ้มให้กัน ให้กำลังใจกันและกัน ก็เพียงพอแล้ว” คุณเฉลิมพงษ์ เล่าถึงที่มาของแคมเปญ Royal Beauty ปันรอยยิ้ม โดยมีแผนการมอบเงินและสินค้ารวมมูลค่า 6 ล้านบาทให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการทำงานครั้งนี้ 3 ข้อ

ข้อแรก คือให้ความช่วยเหลือแบบทันที ด้วยการบริจาคเงินและสินค้าให้กับผู้ที่มีความต้องการแบบเร่งด่วน  เริ่มด้วยการมอบเงิน 1 ล้านบาทให้มูลนิธิรามาธิบดี เพื่อให้การสนับสนุนแก่ทีมงานด่านหน้าที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในตอนนี้ เพื่อให้ทางหน่วยงานไปจัดสรรตามความต้องการ และมอบของช่วยเหลือหน่วยงานที่ทำงานเพื่อสาธารณะที่มีโอกาสได้รับความเสี่ยงสูง เริ่มจากมอบสิ่งของจำเป็นเช่นสบู่ และเจลแอลกอฮอล์ให้กับ กรุงเทพมหานคร เพื่อแจกจ่ายให้พนักงานกวาดถนน และพนักงานเก็บขยะทุกคนทั่วกรุงเทพฯ และมอบของให้มูลนิธิต่างๆที่มีความจำเป็น อาทิมูลนิธิคนตาบอด มูลนิธิช่วยเหลือสตรีต่างๆ และรวมถึงทัณฑสถานหญิง ในหลายๆจังหวัด

“สาเหตุที่เราเลือกส่งมอบผลิตภัณฑ์ไปยังฑัณฑสถานเหล่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดเยอะมากในหลายๆทัณฑสถาน และเรามีแนวคิดว่าไม่ว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจเคยผิดพลาดไป แต่เค้าก็น่าจะยังได้รับโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็มีโอกาสที่จะได้ดูแลตัวเอง รักตัวเอง ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้บ้าง

Royal Beauty

ข้อสอง เพื่อเป็นการส่งกำลังใจให้กันและกัน ให้ทุกคนมีรอยยิ้ม  เราส่งต่อรอยยิ้มด้วยการ มอบสิ่งของจำเป็น ส่งต่อผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอลล์ สบู่  กระจายไปตามจุดต่างๆ เช่น จุดบริการที่มีการตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลสนาม และยังมีการแจกแยกย่อยในชุมชนต่างๆ ทุกสาขาอาชีพ ที่ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเราเท่านั้น แต่เน้นไปที่คนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดโรคระบาดได้ นอกจากนี้ยังได้กระจายของไปยังศูนย์อนามัยทั่วประเทศ ที่มีความต้องการ ผ่านการส่งข้อความมาทางเพจเฟสบุคของรอยัลบิวตี้

Royal Beauty

ข้อสาม เพื่อเป็นการสื่อสารให้องค์กรต่างๆ หรือใครก็ตามที่ยังมีกำลังพอ ให้ออกมาช่วยกันทำแคมเปญในลักษณะเดียวกัน ออกมาช่วยเหลือกันและกัน ทุกคนได้รับผลกระทบ แม้แต่เราเอง ‘ไลฟ์ สตอรี่’ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่นาทีนี้ เรื่องธุรกิจและการหารายได้อาจต้องมองเป็นเรื่องรอง แต่การยื่นมือเข้าช่วยเหลือกันและกันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้เราทุกคนผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

Royal Beauty

มารู้จักกับผู้บุกเบิกตลาดครีมซองรายแรกๆ ของไทย บริษัท ไลฟ์ สตอรี่ (รอยัลบิวตี้) จำกัด เริ่มต้นก่อตั้งได้อย่างไร

บริษัท ไลฟ์ สตอรี่ (รอยัลบิวตี้) จำกัด ได้นำสกินแคร์แบรนด์ ‘รอยัลบิวตี้’ ออกสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2558 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตลอดมา ไม่เพียงแต่สาวๆในประเทศไทย แต่ยังขายดีไปถึงประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ไม่ว่าจะเป็น ลาว เวียดนาม พม่า ฯลฯ

บ.ไลฟ์สตอรี่ ถือเป็นพาร์ทเนอร์ ในเครือของ บ.สหไทยพัฒนภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า ถุงเท้า และชุดชั้นในคาร์สัน ยาจุดกันยุงตราห่านฟ้า ที่ได้รับการยอมรับมากว่า 40 ปี บ.ไลฟ์สตอรี่ เกิดขึ้นจากผู้ก่อตั้งที่เป็นเพื่อนกัน 3 คน ที่เป็นผู้บริหารการตลาดให้กับแบรนด์ใหญ่หลายสิบแบรนด์มาก่อน ที่หันมาสร้างธุรกิจของตัวเอง ด้วยความตั้งใจที่ว่าอยากจะจะมีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องราวดีๆให้กับคนอื่นๆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ไลฟ์สตอรี่ ทำธุรกิจที่ส่งเสริมให้ชีวิตคนดีขึ้น และช่วยเหลือคนอื่นๆไปพร้อมๆกัน โดยเริ่มจากการสร้างผลิตภัณฑ์สกินแคร์ คุณภาพที่ดีจริงๆ ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้จริงๆ ที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนดูดีขึ้นได้จริงๆ เป็นธุรกิจแรกในการเปิดตัว

ปัจจุบันแบรนด์รอยัลบิวตี้ มีสินค้ามากกว่า 40 SKU โดยจะมีสินค้าประเภทสกินแคร์ และคอสเมติก ครบทุกประเภท ทั้งบำรุงผิวหน้าและผิวกาย ไม่ว่าจะเป็น ครีม เซรั่ม กันแดด ลิปสติก รองพื้น สบู่ สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ที่เป็นที่รู้จักของสาวๆทุกคน คือ เซรั่มรอยัลบิวตี้วิตซี ที่ขายดีที่สุดในเซเว่นอีเลฟเว่นมาอย่างยาวนาน สินค้าแบรนด์ Royal

Beauty มีช่องวางจำหน่ายในแทบจะทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา ซีเจมาร์ท ไนน์บิวตี้, Big C, แฟมิลี่มาร์ท, eveandboy และร้านค้าเครื่องสำอางทั่วประเทศ

Royal Beauty

จากผลกระทบโควิดระบาด ไลฟ์ สตอรี่ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอย่างไรบ้าง

โควิดระบาดส่งผลกระทบธุรกิจทุกวงการ ทุกอุตสาหกรรม สำหรับบริษัทไลฟ์ สตอรี่ จำกัดก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เริ่มจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ลดโอกาสในการจัดจำหน่ายน้อยลง บางร้านค้าก็ต้องปิดบริการ หรือเซเว่นที่พื้นที่สุ่มเสี่ยง ปิดช่วงกลางคืน ระยะเวลาการขายก็หายไป ลูกค้าได้รับกระทบหมด กำลังในการจับจ่ายใช้สอยก็รับผลกระทบอยู่แล้ว

ตอนนี้ถ้าหากต้องมองหาแง่ดีสำหรับในวิกฤตนี้คือเมื่อตลาดทั้งหมดชะลอตัว ก็ถึงเวลาที่องค์กรต่างๆ จะลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมคนในยุค New Normal มากขึ้น คนในปีนึง พฤติกรรมของผู้บริโภคก็ต้องปรับ ทางบริษัทก็ต้องปรับตัว ทั้งเรื่องการกระจายสินค้า การส่งมอบสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างมากที่สุด กระจายสินค้าออนไลน์มากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ครีมซองที่ขับเคลื่อนด้วย 3 ปัจจัยหลัก: ความน่าเชื่อถือ คุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ในช่วงบุกเบิกตลาดครีมซองตั้งแต่ 7 ปีที่แล้วนั้น ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ที่ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะไม่ค่อยสนใจครีมซองเพราะมองภาพลักษณ์ว่าเป็นของแถม ของแจก ความท้าทายของสินค้าประเภทนี้คือการเปลี่ยนมุมมองของผู้คนโดยการยึดคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การทำผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน ที่ต้องการทดลองสินค้าแบบใหม่ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเยอะ ถือเป็นเอนเตอร์เทนเมนท์รูปแบบหนึ่ง ทำให้ผู้บริโภคสนุกกับการชอปปิงได้ทุกวัน

หัวใจหลักสามข้อที่ Royal Beauty ยึดถือคือเรื่องคุณภาพ ราคาที่จับต้องได้ แค่เพียง 39 บาทใครๆ ก็สามารถซื้อได้ และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี นอกจากนี้ ทางบริษัทยังสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่แตกต่าง โดยการยึดรูปแบบเป็นผลิตภัณฑ์แบบภาพลักษณ์สินค้าเคาท์เตอร์แบรนด์ ถ้าพูดถึงจุดเด่นของสินค้า เฉลิมพงษ์มองว่าไม่ใช่เรื่องราคา แต่เป็นจุดตั้งต้นแต่แรกที่เริ่มมา คือสินค้าที่มีคุณภาพที่ทำให้ลูกค้ายังคงสนับสนุนเรื่อยมา

ด้วยความท้าท้ายที่ผ่านมาทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของ Royal Beauty มีอะไรบ้าง

สำหรับผลิตภัณฑ์ซองที่ขายดีที่สุดของ Royal Beauty มีหลากหลายชนิดด้วยกัน มีทั้งคอลลาเจน, เซรั่มวิตซี นอกจากนี้ก็ยังมีไฮยาลูรอน เซรั่ม, เพอร์เฟกต์ไวท์ครีม, กลูตา เซรั่ม, แพลงตอน, สครัปสูตรมะขามวิตซี, ครีมกันแดดวิตซี, สบู่วิตซี, สบู่ไฮยาลูรอน, สบู่กลูตา, ชูตติ้งเจล, อโลเวลาเจล มีบีบี ซีซีครีม ลิปสติกแปรงจุ่มทาได้ทั้งแก้ม ตา สินค้าล่าสุดที่ออกมาคือ เฟิรมมิ่งเจล ที่เหมาสำหรับคนยุคนี้ที่อยู่บ้านตลอดเวลา ทานเยอะ จนน้ำหนักตัวเพิ่มง่าย ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้นวดทั่วเรือนร่างเพื่อความกระชับได้

สำหรับแบรนด์น้องใหม่ ตอนนี้คือ Clear Face ที่มีกลุ่มลูกค้าคือเด็กนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือกลุ่มคนทำงานเริ่มต้น เป็น First Jobber ซึ่งก็มีทั้งผลิตภัณฑ์แบบชูตติ้งเจล ทาได้ทั้งตัว, ชูตติ้งอโลเวร่

กว่าจะมีวันนี้ของบริษัท ไลฟ์ สตอรี่ จำกัด ถือว่าไม่ง่ายเลยสำหรับการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ตลาดครีมซองผ่านแบรนด์ Royal Beauty ให้มีความน่าเชื่อถือ มีราคาจับต้องได้และมีคุณภาพสูงไม่แพ้สินค้าเคาท์เตอร์แบรนด์

เหนือสิ่งอื่นใดคือการทำธุรกิจของไลฟ์ สตอรี่  ที่พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ควบคู่ไปกับเป้าหมายที่ต้องการผลักดันสังคมให้ดีขึ้นผ่านแคมเปญให้ความช่วยเหลือผู้คนอย่างหลากหลายน่าจะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ เมื่อลูกค้าหรือผู้บริโภคประสบวิกฤต การร่วมกันฝ่าฟันวิกฤต ไปกับลูกค้าจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้ประกอบการยิ่งต้องให้ความสำคัญ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา