เมื่อประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนเลือกตอบแทนตัวเองด้วยนาฬิกาหรู Rolex สักเรือน ซึ่งก่อนหน้านี้อาจหาซื้อรุ่นที่ถูกใจได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้กว่าจะได้มาต้องรอกันเป็นปี ๆ มาดูกันว่าทำไม Rolex มือหนึ่งถึงขาดตลาดขนาดนี้
ชะลอการผลิตหลังเกิดโรคระบาด
ปัจจัยแรกที่สร้างปัญหาให้เกิดเหตุการณ์ Rolex มือหนึ่งขาดตลาดในเวลานี้คือ โรคระบาด โดยตั้งแต่โรค COVID-19 ระบาดในปี 2020 Rolex ต้องหยุดการผลิตในโรงงานที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปหลายเดือน และทางบริษัทยืนยันว่าจะไม่เพิ่มกำลังผลิตนาฬิการุ่นที่ได้รับความนิยมสูง เช่น Submariner, GMT หรือ Explorer
“การหยุดผลิตทำให้ซัพพลายสินค้าไม่เพียงพอ และมันก็มีเหตุผลที่ Rolex จะไม่เพิ่มกำลังผลิตรุ่นยอดนิยม เพราะบริษัทต้องการเพิ่มมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ครอบครอง และไม่อยากลดคุณค่าของสินค้า” Paul Altieri ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bob’s Watch เว็บไซต์จำหน่ายนาฬิกาหรูมือสอง วิเคราะห์
เมื่อประกอบกับความนิยม Rolex ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คล้ายกับการเติบโตของตลาด Sneakers ทำให้เกิดเว็บไซต์ และบริการซื้อขาย Rolex มือหนึ่ง-มือสอง เป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ซื้อค่อนข้างเชื่อใจ เช่น Bob’s Watch ที่หากลงขาย Rolex รุ่นยอดนิยม สินค้าจะถูกขายเพียงไม่ถึง 20 นาทีเท่านั้น
ดีลเลอร์ไม่มีจริยธรรมขายต่อตลาดมืด
ปัจจัยต่อมาคือ ดีลเลอร์ เพราะดีลเลอร์ที่ถูกต้องของ Rolex หรือ Authorized Dealer บางรายไม่มีจริยธรรมในการขายสินค้า โดยปกติหากลูกค้าต้องการซื้อ Rolex รุ่นยอดนิยม ดีลเลอร์จะเจรจาให้พวกเขาซื้อรุ่นเริ่มต้น เพื่อทำความรู้จัก และรับรู้คุณค่าของสินค้า ที่สำคัญคือได้รับสิทธิ์มีรายชื่อรอซื้อ Rolex รุ่นยอดนิยมในภายหลัง
แต่ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่รอได้ ทำให้เกิดดีลเลอร์กลุ่มหนึ่งนำ Rolex รุ่นยอดนิยมในสต๊อกไปปล่อยในตลาดมืดเพื่อทำกำไร และพ่อค้าเหล่านั้นจะบวกกำไรอีกทีก่อนปล่อยให้ผู้ซื้อทั่วไป แม้ราคาจะสูงกว่าราคาขายปลีกหน้าร้าน แต่ลูกค้าก็ยอมจ่ายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง
“ดีลเลอร์ที่ถูกต้องของ Rolex ทุกรายจะไม่รู้ว่า Rolex จะส่งนาฬิการุ่นใดมาให้ขายบ้าง เพราะสินค้าทั้งหมดจะบรรจุอยู่ในกล่องปริศนา ลุ้นเอาเองว่าจะได้รุ่นยอดนิยม หรือรุ่นที่ความต้องการน้อย ซึ่งพวกเขาต้องขายนาฬิกาเหล่านี้จนกว่าจะมีสินค้าใหม่ส่งมาให้” Ariel Adams เจ้าของ aBlogtoWatch กล่าว
ความต้องการยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อีกปัจจัยคือ ความต้องการ อ้างอิงจาก FHS หรือสมาคมอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า การส่งออกนาฬิกาหรูเดือน ก.ค. 2021 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. 2019 คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือกว่า 71,000 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นมาจากความต้องการในตลาดสหรัฐอเมริกา และจีน เพิ่มสูงขึ้น
ชี้ให้เห็นว่า ถึงจะมีโรคระบาด และหลายอุตสาหกรรมมีปัญหา แต่กลุ่มผู้ผลิตนาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์ยังมียอดส่งออกนาฬิกาเพิ่มขึ้นกว่าช่วงไม่มีโรคระบาดเสียอีก ปัจจุบันดีลเลอร์ที่ถูกต้องของ Rolex ในประเทศไทยมีกลุ่ม King Power, นำสว่าง, Time Midas และ Cortina Watch เป็นต้น
ส่วนราคาของ Rolex มือสอง หากอ้างอิงจากเว็บไซต์ Bob’s Watch จะพบว่า ราคาขายปลีกรุ่น Submariner เริ่มต้น 8,100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.62 แสนบาท) ส่วนราคาขายต่อ หรือ Resale สูงที่สุดพุ่งไปถึง 48,495 ดอลลาร์ (ราว 1.57 ล้านบาท)
สรุป
ความต้องการ Rolex ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง และไม่มีท่าทีว่าจะลงง่าย ๆ ซึ่งเบื้องต้น Rolex อาจแก้ปัญหาโดยการมีลิสต์รายชื่อทางการ พร้อมระยะเวลาส่งมอบนาฬิกาที่ลูกค้ามีโอกาสซื้อ เพื่อไม่ต้องให้ลูกค้ารอนาน แต่การทำอย่างนั้น อาจส่งผลต่อคุณค่าทางจิตใจกับผู้ที่ครอบครองอยู่ ซึ่งก็ต้องดูว่า Rolex จะชั่งน้ำหนักเรื่องนี้อย่างไร
อ้างอิง // Yahoo Finance, Bob’s Watch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา