เพราะทุกคนมีแง่มุมชีวิตที่แตกต่างกันหลายครั้งเรื่องราวชีวิตของคนอื่นก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ “ป้าแมว – กัญญณัช ยังสถาพร” ไรเดอร์วัยเกษียณ อายุ 62 ปี จาก Robinhood ที่ได้รับรางวัลไรเดอร์แห่งปีดีต่อใจ (Rider of the Year) จากงาน Robinhood Academy Awards 2022 ไปหมาดๆ
แค่เริ่มต้นก็รู้แล้วว่า เรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจได้แน่ๆ อะไรทำให้คนวัยเกษียณลุกขึ้นมาทำงานอย่างมีความสุข ขี่รถส่งอาหารตากแดดร้อนๆ เป็นเรื่องที่ดีอย่างไร อะไรทำให้ป้าแมวรักในอาชีพนี้ และคำถามสำคัญที่หลายคนสงสัย คือ ป้าแมวเป็นไรเดอร์จริงๆ ใช่มั้ย?
ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
ว่างงาน 10 ปี เป็นซึมเศร้า ก่อนก้าวมาเป็นไรเดอร์
ไม่ได้อยากเริ่มต้นด้วยเรื่องดราม่า แต่นี่คือชีวิตจริงของป้าแมว และอาจจะคล้ายหรือเหมือนกับใครหลายๆ คนก็ได้ ป้าแมวบอกว่า เกษียณจากการทำงานตอนอายุ 53 ปี อาชีพสุดท้ายคือ ผู้จัดการร้านขายยา เวลานั้นโลกมีแค่บ้านกับร้านยาเท่านั้น จนกระทั่งสามีเสียชีวิต
“ลูกชาย ลูกสาว ก็รับเรามาดูแล สามารถเลี้ยงดูเราได้อย่างดี แต่ชีวิตจืดชืดมาก ตื่นมาไม่ได้ทำอะไร สุดท้ายก็กลายเป็นซึมเศร้า ร้องไห้ ต้องไปพบจิตแพทย์ ไม่รู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้”
จนวันหนึ่ง เพื่อนชวนไปซ้อนขับมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารของบริการเดลิเวอรี่รายหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว ได้เงินวันละ 200-300 บาท ทำให้เห็นว่า โลกข้างนอกยังมีงานให้ทำ และเป็นคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว จึงตัดสินใจสมัคร อบรม และเริ่มเป็นไรเดอร์ทันที
โชคดีที่ลูกๆ สนับสนุนให้ทำ เพราะเขาเชื่อว่า ถ้ามีโอกาสอยากทำอะไรให้ทำเลย ชีวิตการเป็นไรเดอร์จึงเริ่มต้นขึ้น
จุดเริ่มต้นของไรเดอร์บันดาลใจ
การเริ่มต้นงานใหม่ ไม่มีอะไรง่าย ป้าแมวบอกว่า ครั้งแรกที่เริ่มต้นทำงาน เห็นแอปแจ้งเตือนงานขึ้นมาบนมือถือ ไม่กล้ากดรับ กลัวทำผิด กลัวทำไม่ได้ สุดท้ายเพื่อนไรเดอร์คนอื่นก็กดรับงานนั้นไป
แนวคิดแรกจึงเกิดขึ้นว่า ทุกคนมีความสามารถทำได้ เราก็ทำได้ ที่สำคัญคือถ้าไม่กดรับ ก็ไม่ได้งาน และก็ไม่ได้เงิน ดังนั้นงานที่สองจึงกดรับทันที และเกิดเป็นหลักในการทำงานทันทีว่า ไปหมดถ้ากดติด
และนั่นคือพลังบวกในการทำงาน ขอให้กดติดไม่ว่างานอะไรก็จะรับ ใกล้ไกลก็ไม่สน ปกติวิ่งอยู่แถวท่าดินแดง บรรทัดทอง แต่ระยะทางไกลที่สุดที่เคยไปส่งคือ บางบัวทอง 28 กม. เรารู้ว่าคนสั่งอยากกิน และร้านอาหารก็ขายได้ ดังนั้นเราทำหน้าที่ส่งอาหาร เหมือนส่งความสุขไปให้ลูกค้าถึงบ้าน อยากให้ไรเดอร์ทุกคนรู้สึกแบบนี้
“ข้อดีของการรับทุกงานที่กดได้ คือ การได้ไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ถ้าไม่ได้เป็นไรเดอร์ เราคงไม่ได้ขี่รถไปแถวนั้นแน่นอน หลายครั้งที่ได้ไปส่งในที่ไกลๆ ก็จะปิดแอป และแวะเที่ยวแถวนั้นก่อนค่อยกลับ กลายเป็นข้อดีที่หลายคนคาดไม่ถึง”
3 ท กับหลักปฏิบัติและการใช้ใจทำงาน
ป้าแมวเล่าว่า การได้รับรางวัล Rider of the Year คือความภูมิใจ เพราะจากไรเดอร์กว่า 32,000 คน มีคนเห็นสิ่งที่เรายึดถือและปฏิบัติมาตลอดการทำงานกว่า 2 ปี คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และจริงใจ
นอกจากนี้จะใช้หลัก 3 ท ในการทำงาน ซึ่งเป็นหลักการทำงานของ Robinhood โดย ท แรก คือ ทักทาย ต้องยิ้มแย้มแจ่มใสยกมือไหว้สวัสดีทั้งร้านอาหารและลูกค้าที่เราไปส่งที่บ้าน รวมถึงเพื่อนไรเดอร์ทุกคนทุกคน แม้แต่เวลาที่เราไม่ได้รับงาน ไม่มีออเดอร์ ก็แวะไปทักทายร้านอาหารได้ตลอด นี่เป็นสิ่งที่สร้างเสน่ห์ให้กับเรา
ท สอง คือ ทบทวน ทุกครั้งก่อนรับอาหารจากร้านค้า ต้องทบทวนออเดอร์ว่าตรงกันมั้ย รายการอาหารที่สั่งครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ การทบทวนจะป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นทั้งกับเราและร้านค้าได้อย่างดี ลูกค้าก็ได้รับอาหารตรงตามที่สั่ง ทุกคนมีความสุข
ท สาม คือ แทงกิ้ว ขอบคุณทุกคนทั้งร้านค้า ลูกค้าและไรเดอร์ด้วยกัน การขอบคุณกันทำให้การทำงานแต่ละวัน มีความสุขมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แนะนำให้ลองกันดู
“การเป็นไรเดอร์ สิ่งที่ต้องเจอก็คือ อารมณ์ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ทั้งจากร้านค้าหรือลูกค้า สิ่งที่ไรเดอร์ต้องนึกถึงเสมอคือ เอาใจเขาใส่ใจเราและปล่อยวาง เดี๋ยวทุกอย่างก็จะผ่านไป”
ชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีความสุข
ป้าแมว บอกว่า ทุกวันนี้ออกมาอยู่อพาร์ตเมนต์คนเดียว เพราะชอบชีวิตอิสระ ลูกๆ ก็เข้าใจและเป็นคนมาหาที่พักให้ ทุกวันจะตื่นขึ้นมาด้วย “ใจ” ที่อยากออกไปทำงาน ออกไปเจอผู้คนมากมายด้วยความยิ้มแย้ม ด้วยอายุที่มากขึ้น รับงานได้วันละ 7-10 รอบก็เพียงพอแล้ว
“ความสุขคือการได้ออกมาขี่รถ รับงาน ไปในที่ๆ ไม่เคยไป สร้างความสุขให้ร้านค้าและลูกค้า พร้อมทั้งมีรายได้”
ทุกวันนี้ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากับทางพันธมิตรของ Robinhood เพราะส่วนตัวมองว่าคุ้มกว่า ค่าเช่าก็คือค่าน้ำมัน ไม่ต้องบำรุงรักษาอะไร มีจุดให้เปลี่ยนแบตเตอรี่กระจายอยู่มากมาย ใครจะนำวิธีนี้ไปทดลองใช้บ้างก็ได้
สุดยอดรางวัลของชีวิต
ป้าแมว เล่าถึงตอนที่ได้รับรางวัลว่า ทาง Robinhood ติดต่อมาว่าให้มางาน “Robinhood Academy Awards 2022” และแต่งตัวสวยๆ เพราะเป็นหนึ่งในไรเดอร์ที่ได้รับรางวัลด้วย แต่ไม่บอกว่ารางวัลอะไร ส่วนตัวก็ดีใจที่มีคนเห็นการตั้งใจทำงานของเราแต่ไม่คิดว่าจะได้รางวัลใหญ่ขนาดนี้
ตอนที่ได้รับรางวัล Rider of the Year บอกเลยว่านี่คือรางวัลใหญ่ เป็นสุดยอดรางวัลของชีวิต เป็นความสำเร็จในชีวิตจากการทำดีในทุกวัน มีคนมาร่วมแสดงความยินดีมากมาย
“ขอบคุณ Robinhood ที่ให้โอกาสคนตัวเล็กๆ อย่างป้า ไม่จำกัดคนวัยเกษียณให้มาทำงาน นอกเหนือจากรายได้ คือ ความสุขที่ได้วิ่งส่งอาหารให้ลูกค้า ที่สำคัญช่วยสานฝัน ป้าชอบในการเดินทางได้ขับขี่รถไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ลองกินอาหารที่หลากหลาย ได้รู้จักร้านอาหารใหม่ๆ เหมือนได้ไปเที่ยว และการที่ได้รางวัลนี้เป็นการเติมเต็มให้ชีวิตของป้ามีคุณค่าในทุกๆ วัน”
เมื่อถามว่าป้าแมวจะเป็นไรเดอร์ไปอีกนานแค่ไหน เพราะตอนนี้ก็ 62 แล้ว
ป้าแมว บอกว่า ถ้ายังทำไหวก็อยากจะวิ่งรถต่อไป นี่คืออาชีพสุจริต ที่ทำให้เราพึ่งพาตัวเองได้ อยากบอกทุกคนว่า ไม่ว่าจะทำอะไร ทำแล้วทำให้ดีที่สุด ทำให้สุดๆ มองเห็นคุณค่าของงานที่ทำ เหมือนป้าแมวที่มองว่า ไรเดอร์ คือคนส่งความสุข และอย่าลืมแต่งตัวให้เรียบร้อย ให้เกียรติตัวเอง ให้เกียรติคนอื่นๆ และแน่นอนว่าต้องระมัดระวังในการขับขี่ อย่าประมาท อย่ามุ่งแต่ทำรอบอย่างเดียว
ถือได้ว่า ป้าแมว เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตด้วยใจที่มีความสุข ด้วยแรงที่อยากออกมาทำสิ่งที่รัก เชื่อว่า มีสิ่งที่เราสามารถทำได้อีกมากในโลกใบนี้ โดยไม่ปล่อยให้อายุมาเป็นอุปสรรค จึงไม่แปลกใจที่ ป้าแมว จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน
ป้าแมวทิ้งท้ายได้อย่างน่าสนใจว่า “เคยมีไรเดอร์คนหนึ่งพูดว่า ยายยังทำงานขับไรเดอร์อยู่เลย ยายไม่ท้อ ดังนั้นเราต้องไม่ท้อ เราต้องสู้ต่อ ได้ยินก็รู้สึกดีนะ แต่บอกกลับไปว่า จะดีกว่านี้ถ้าไม่เรียกว่ายาย นี่คือ ป้าแมว”
ดังนั้น ใครเจอป้าแมว ทักทายได้ แต่ขอให้เรียก ป้าแมว ก็แล้วกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา