เดอะมอลล์ กรุ๊ปวางแผนยุทธศาสตร์ 6 ปี ทุ่มงบแสนล้านเนรมิตเมกะโปรเจ็คต์ใจกลางเมือง พร้อมพลิกโฉมเดอะมอลล์ทุกสาขา ทรานส์ฟอร์มสู่ The Mall 4.0 เสริมทัพผู้บริหารรุ่นใหม่
ปรับตัวครั้งสำคัญ นำเทคโนโลยีมาใช้
การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกที่รุนแรงมากขึ้นทุกปี ในประเทศไทยได้มีการตื่นตัวมาหลายปีแล้ว ผู้ประกอบการหลายรายต่างมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เดอะมอลล์ กรุ๊ปเองที่อยู่ในตลาดเกือบ 4 ทศวรรษก็ได้มีการปรับตัวอยู่ตลอดซึ่งในปีนี้มีการปรับตัวครั้งใหญ่นอกจากการลงทุนเปิดศูนย์การค้าใหม่แล้วยังมีลงทุนเรื่องเทคโนโลยีและบุคลากรอีกด้วย
โดยที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้วางโรดแมพยุทธศาสตร์ 5 ปี หรือทิศทางธุรกิจในกลุ่มเดอะมอลล์ สำหรับปี 2562 – 2566 เป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจรีเทลมีความท้าทายมากขึ้นจากเดิม เพราะการเข้ามาของอีคอมเมิร์ซ หรือ ค้าปลีกออนไลน์ ทำให้ธุรกิจค้าปลีกต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ และต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าที่ซับซ้อนขึ้น
การวางกลยุทธ์การตลาดมีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ต้องมี BIG DATA ที่ถูกต้องและแม่นยำต้องเข้าถึงและสื่อสารกับลูกค้าผ่านทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ได้มีการปรับกลยุท์โดยการนำการค้าการขายแบบออฟไลน์ มาหลอมรวมให้เป็นเนื้อเดียวกับการค้าการขายแบบออนไลน์ ในรูปแบบที่ไร้รอยต่อ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งด้านความสะดวกสบายในการจับจ่ายสินค้า และมีสินค้าจริงให้ได้สัมผัส ทดลอง เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า
“เดอะมอลล์ กรุ๊ป มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนและของโลก ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเดอะมอลล์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าที่บริหารงานภายใต้บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้แก่ ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา, พารากอน, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และบลูพอร์ต หัวหิน”
โดยในแต่ละปีมีลูกค้าทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เข้ามาใช้บริการศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป มากถึงปีละ 500 ล้านคน
เปิด 3 โปรเจ็คต์ รับตลาดรีเทล
ภายใต้โรดแมพ 5 ปี เดอะมอลล์ก กรุ๊ปได้เตรียมเนรมิตโครงการเมกะโปรเจ็กต์ และพลิกโฉมเดอะมอลล์ ทุกสาขา โดยทุ่มงบกว่า 80,000 ล้านบาท ส่วนงบ 6 ปีใช้รวม 100,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการเมกะโปรเจ็กต์เปิดตัวศูนย์การค้า “แบงค็อก มอลล์ (BANGKOK MALL)” โครงการระดับแฟล็กชิพบนทำเล ณ จุดตัดถนนบางนา–ตราดกับสุขุมวิท เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอุดมสุข และบางนา ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าไลท์เรล จากสี่แยกบางนา ถึง สุวรรณภูมิ
โครงการแบงค็อก มอลล์ เป็น MIXED USE COMPLEX มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ รวมพื้นที่โครงการกว่า 1,200,000 ตารางเมตร เป็นอาณาจักรศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย รวมถึงออฟฟิศแบบครบวงจรภายใต้คอนเซ็ปต์ CITY WITHIN THE CITY
โปรเจ็คต์ต่อมา “ดิ เอ็มสเฟียร์ (THE EMSPHERE)” มีพื้นที่โครงการกว่า 200,000 ตารางเมตร บนทำเลใจกลางย่านสุขุมวิท และเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้โครงการดิเอ็มดิสทริค เป็นย่านที่ประกอบด้วย ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์ รวมพื้นที่ทั้งหมด 650,000 ตารางเมตร
เดอะมอลล์ รามคำแหง (THE MALL RAMKHAMHAENG) ทำการพลิกโฉมครั้งใหญ่ โดยก่อสร้างโครงการอาคารสรรพสินค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง 2 ในรูปแบบ “MIXED USE COMPLEX” บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 230,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนกว่า 10,000 ล้าน โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เตรียมพลิกโฉมทั้งภายในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา ได้แก่ เดอะมอลล์ ท่าพระ, งามวงศ์วาน, บางแค และบางกะปิ ภายใต้คอนเซ็ปต์ THE MALL LIFESTORE, A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE
ปรับทัพเพิ่มผู้บริหารคนรุ่นใหม่ นำประสบการณ์จากต่างชาติมาปรับใช้
ในปีนี้เดอะมอลล์ กรุ๊ปได้จัดทัพใหม่ ได้เปิดตัวผู้บริหารใหม่ แต่เดิมผู้บริหารรุ่นเก่าอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีการเพิ่มผู้บริหารระดับสูงรุ่นใหม่ๆ อายุ 40-50 ปีเข้ามาบริหารมากขึ้น มีผู้บริหารต่างชาติเข้ามามากขึ้นเช่นกัน เพื่ออาศัยประสบการณ์จากการบริหารค้าปลีกจากเมืองนอกมาบริหารด้วย
เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ 5 ปี เดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงได้มีการปรับขบวนทัพใหม่ นำโดยผู้บริหารระดับสูงที่มีความชำนาญ เชี่ยวชาญ ในวงการค้าปลีกจากทั้งในและต่างประเทศ มาเสริมทัพ ได้แก่ นายโรเบิร์ต เจมส์ ซิสเซล (MR.ROBERT JAMES CISSELL) รับผิดชอบในตำแหน่ง CEO, RETAIL GROUP ตั้งแต่กันยายน 2561 เพื่อเป็นแม่ทัพกลุ่มธุรกิจรีเทล ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา,
เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, พารากอน และบลูพอร์ต หัวหิน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา