เปิดทิศทางธุรกิจร้านอาหาร 2023 LINE MAN Wongnai เผย มีร้านเปิดเพิ่มในระบบเกือบ 1 แสนร้าน อาหารเช้า-อาหารจีน เปิดใหม่เยอะสุด แต่การแข่งขันสูงทำร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ในช่วง 1 ปี ปิดตัวถึง 50% กลุ่ม Food Truck และข้าวต้มมื้อดึกเริ่มตกกระแส
ทิศทางตลาดร้านอาหารยังโตต่อเนื่อง
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เล่าให้ฟังว่า อ้างอิงฐานข้อมูลร้านอาหารในระบบ LINE MAN Wongnai สิ้นเดือน มิ.ย. 2023 อยู่ที่ 6.80 แสนราย เพิ่มขึ้นจาก 5.98 แสนราย คิดเป็น 13.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีร้านอาหารตามสั่ง, คาเฟ่ และร้านอาหารไทย เปิดบริการมากที่สุด
“ตัวเลขที่เติบโตมาจากเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทำให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการ และมีการเปิดใหม่มากขึ้น รวมถึงกระแส Dine-in (การรับประทานที่ร้าน) กลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่เดลิเวอรียังไม่ตก เพราะยังประคองการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง”
หากเจาะไปที่ร้านอาหารเปิดใหม่จะพบว่า ร้านอาหารเช้า, ร้านอาหารจีน และสุกี้ ชาบู มีการเปิดใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนเมนูที่ขายดีในแพลตฟอร์มเดลิเวอรีในฝั่งร้านอาหารจะเป็นก๋วยเตี๋ยว, ข้าวมันไก่ และส้มตำ ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มจะเป็นอเมริกาโน่, ชาเขียวนม และชานมรูปแบบต่าง ๆ
ร้านใหม่ปิดตัว 50% เหตุเข้าง่าย ก็ออกง่าย
ในทางกลับกัน ร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ในช่วงเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ มิ.ย. 2022-2023 มีการปิดตัวลง 50 ของจำนวนทั้งหมด และหากนับย้อนหลัง 3 ปี จะปิดตัวลงถึง 65% เนื่องจากธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูง ผ่านสถานการณ์ที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของร้านอาหารได้ง่ายขึ้น
“จากข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจร้านอาหารนั้นไม่ง่ายที่จะดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งเดลิเวอรีเป็นที่นิยม ทำให้ข้อจำกัดของการเปิดร้านอาหารในอดีต เช่น ต้องมีที่ หรือต้องตกแต่งหน้าร้าน หายไป แต่เมื่อทุกคนเข้ามาง่าย ก็ไม่แปลกที่จะออกไปจากอุตสาหกรรมง่ายขึ้นเช่นกัน”
สำหรับร้านอาหารที่มีการเติบโตชะลอตัวมากที่สุดหากอ้างอิงจากข้อมูลแพลตฟอร์มเดลิเวอรีจะพบว่า Food Truck มีการเติบโตลดลง 63.8%, ข้าวต้มมื้อดึก มีการเติบโตลดลง 44.3% และ พิซซ่า มีการเติบโตลดลง 39.2% ถือเป็นประเภทของธุรกิจร้านอาหารที่ต้องมีการปรับตัว หรือเพิ่มกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อประคองให้อยู่รอด
ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นคืออีกปัญหา
ในทางกลับกันต้นทุนวัตถุดิบ และค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ยังทำให้การประกอบธุรกิจร้านอาหารทำได้ยากขึ้น เพราะสองปัจจัยดังกล่าวคิดเป็นครึ่งหนึ่งของต้นทุนในการทำธุรกิจร้านอาหาร ทำให้หากควบคุมทั้งสองเรื่องนี้ได้จะทำให้โอกาสการทำกำไรในธุรกิจร้านอาหารทำได้ดีขึ้นเช่นกัน
“จากการสำรวจพบว่า ต้นทุนอาหารแต่ละจาน 9% คือวัตถุดิบเหลือทิ้ง อาจเกิดมาจากการปรุงอาหาร เช่น การตัดแต่ง และเกิดการเน่าเสีย ซึ่งจริง ๆ แล้วหากมีการจัดการวัตถุดิบเหลือทิ้งที่ดี ก็จะขจัดปัญหานี้ได้” ฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบจัดการร้านอาหาร FoodStory POS ของ LINE MAN Wongnai กล่าว
LINE MAN Wongnai เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว และเตรียมทำตลาด POS เต็มรูปแบบ ผ่านการควบรวมกิจการ FoodStory ต่อยอดจากการเข้าไปลงทุนกิจการดังกล่าวเมื่อปี 2018 เพื่อเพิ่มโซลูชันให้กับร้านอาหารในการบริหารจัดการการขายหน้าร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ของตลาด POS
การควบรวมกันระหว่าง LINE MAN Wongnai กับ FoodStory ทำให้บริษัทกลายเป็นเบอร์ 1 ของตลาด POS ผ่านการมีส่วนแบ่งตลาด 40% ด้วยจำนวนการใช้งานกว่า 55,000 ร้านค้า มีมูลค่าการซื้อขายผ่านระบบราว 1.8 แสนล้านบาท ผ่านออร์เดอร์ที่สำเร็จ 636 ออร์เดอร์
นอกจากนี้ยังสามารถทำตลาดได้ครอบคลุมมากขึ้น จากเดิมที่ Wongnai POS จะเน้นจับกลุ่มร้านขนาดเล็ก ส่วน FoodStory จับตลาดร้านขนาดใหญ่ ทำให้เหลือร้านขนาดกลางที่ยังเข้าถึงไม่ได้ โดย POS นี้ช่วยร้านบริหารจัดการช่องทางขาย, ทำตลาดผ่าน LINE MAN Wongnai, เชื่อมต่อระบบบัญชี และเข้าถึงบริการทางการเงิน
สำหรับภาพรวมตลาดโซลูชันตลาดร้านอาหารปัจจุบันมีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยถือเป็นมูลค่าค่อนข้างน้อย เนื่องจากหลายร้านยังรู้สึกไม่จำเป็นที่จะต้องใช้งาน แต่การมาถึงของบริการเดลิเวอรีทำให้หลายร้านเริ่มเปิดใจใช้งาน และเข้าถึงเทคโนโลยี POS ได้มากขึ้น
หมายเหตุ: Brand Inside เป็นเว็บไซต์ในเครือ LINE MAN Wongnai
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา