ธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐฯ ฟื้นตัว แต่ค่าทำความสะอาด-ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มทำให้กำไรลดลง

ร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 อย่างหนัก แม้ล่าสุดสถานการณ์เริ่มดีขึ้น เช่นในสหรัฐอเมริกาที่ร้านเหล่านั้นมียอดขายเติบโต แต่กำไรยังไม่กลับมาเพราะต้นทุนในการทำธุรกิจสูงขึ้น

starbucks
ภาพจาก Shutterstock

คุมต้นทุนได้ดีคือเป้าหมาย

จากการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐอเมริกา ทั้ง Starbucks, Yum Brands และอื่นๆ พบว่า ยอดขายของทุกร้านอาหารแบรนด์ใหญ่เริ่มฟื้นตัวกลับมาจากช่วง COVID-19 ระบาดอย่างหนักเมื่อเดือนมี.ค.-เม.ย. เพราะผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ และกล้าที่จะจับจ่าย

แต่ด้วยการใช้ชีวิตในช่วง COVID-19 ยังระบาดอยู่ ร้านอาหารจะมีต้นทุนอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาทันที ไม่ว่าะจะเป็นต้นทุนเรื่องความสะอาดที่เพิ่มเข้ามา, ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนแรงงานที่มีค่าใช้จ่ายต่างๆ มากกว่าเดิม ซึ่งต้นทุนเหล่านี้ทำให้อัตรากำไรของหลายบริษัทไม่สามารถกลับมาเติบโตได้เหมือนยอดขาย

เช่น Domino’s Pizza ที่แจ้งว่าต้นทุนชีสเพิ่มขึ้นจากที่เคยต่ำสุดในไตรมาส 2 ของปี 2563 กลับมามีราคาสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3 ปี 2563 และ Chipotle Maxican Grill ที่แจ้งว่าต้นทุนเนื้อวัวปรับตัวสูงขึ้นทำให้อัตรากำไรลดลงทันที

ส่วน Starbucks แจ้งว่า บริษัทมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้นเช่น การจ่ายเงินระหว่างที่พนักงานต้องลาป่วย รวมถึงค่าจ้างพิเศษเพื่อให้พนักงานเข้ามาทำงาน เช่นเดียวกับ Restaurant Brands International เจ้าของ Burger King และ Tim Hortons แจ้งว่าตัวธุรกิจยังอยู่ระหว่างปรับกลยุทธ์

สรุป

ถือเป็นสัญญาณดีที่หลายร้านอาหารเริ่มกลับมามียอดขายดีขึ้น แต่ต้วทุนที่มาพร้อมกับการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ร้านอาหารเหล่านั้นต้องปรับตัวเพื่อควบคุมต้นทุนเหล่านั้น เพราะถ้าไม่สามารถทำได้ โอกาสที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปีนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย

อ้างอิง // Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา