เปิดผลวิจัยชาว Gen Z ในไทย ลงทุนกับเรื่องท่องเที่ยวมากกว่าการศึกษา

Booking.com เผยผลวิจัยของคนชาว Gen Z ให้ความสำคัญกับเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่ง ลงทุนมากกว่าอสังหาริมทรัพย์ และการศึกษา

Booking.com ได้ทำการสำรวจข้อมูลทั่วโลกเป็นชาว Gen Z เกือบ 22,000 คนใน 29 ประเทศ/ภูมิภาค เกี่ยวกับมุมมองการใช้ชีวิต รวมไปถึงการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ

คำจำกัดความของ Gen Z คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 16-24 ปี เป็นกลุ่มที่จะมากำหนดเทรนด์ในอนาคต กำลังอยู่ในวัยที่เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี การสำรวจโดย Booking.com พบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

ลงทุนกับการเดินทางคุ้มค่ามากที่สุด

คน Gen Z เติบโตมาในโลกที่ความผันผวนทางการเงินและเศรษฐกิจของโลก ดังนั้นหากทำความเข้าใจกับมุมมองด้านการเงินของคนรุ่นนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าคนรุ่นนี้มีแผนที่จะใช้เงินอย่างไรในช่วง 5 ปีนับจากนี้ ก็จะช่วยให้เข้าใจมุมมองโดยรวมเกี่ยวกับชีวิตของคนเจเนอเรชันนี้

คน Gen Z จำนวน 60% มองว่าการลงทุนกับการเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเสมอ และเมื่อจัดลำดับสิ่งที่คนรุ่นนี้จะนำเงินไปใช้จ่าย ผลปรากฏว่า “ออกเดินทางไปสำรวจโลกกว้าง” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับ1 ของคนรุ่นนี้ หรือ 65% ส่วนการเก็บเงินเพื่อ “การลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต” ซื้ออสังหาริมทรัพย์ มาเป็นอันดับ2 แต่ที่น่าสนใจคือการใช้เงินซื้อของต่างๆกลับอยู่ในอันดับท้ายสุด

เจาะลึกลำดับความสำคัญของGen Z

เมื่อถามถึงลำดับความสำคัญของสิ่งที่คน Gen Z จะนำเงินไปใช้จ่ายการเดินทางท่องเที่ยวมาเป็นอันดับแรก ในตัวเลือก 5 ใน 7 ขอ งGen Z โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการซื้อสิ่งของ หรือใช้เงินไปกับประสบการณ์ที่เพลิดเพลินได้เพียงชั่วขณะ โดยการเดินทางอยู่ในอันดับสูงกว่าสิ่งต่างๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์ไอที และแกดเจ็ตต่างๆ การไปทานอาหารตามร้าน รวมถึงสปาทรีทเมนท์ และทรีทเมนท์เสริมความงาม

ไม่ขอประจำอยู่ที่ออฟฟิศ

คน Gen Z มองว่าการทำงานเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ในชีวิต ไม่ว่าจะกำลังอยู่ในช่วงหางาน หรือเริ่มทำงานแล้วก็ตาม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่คนรุ่นนี้จะจัดอันดับให้การได้งานเป็นประสบการณ์ที่สำคัญที่สุดในชีวิต 80% แต่เพราะการเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่คนเจเนอเรชันนี้ให้ความสนใจอย่างมาก นายจ้างที่มีโอกาสรับคนกลุ่มนี้เข้าทำงานก็ควรคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย

โดยคน Gen Z ถึง 54% กล่าวว่าสิ่งสำคัญเวลาเลือกงานก็คือ จะต้องมีโอกาสได้เดินทางไปทำงานที่อื่นนอกจากนี้ 57% ยังกล่าวอีกว่างานที่เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมอื่นๆ เป็นงานที่น่าดึงดูด

นักผจญภัยใจมุ่งมั่น

แม้คน Gen Z จะเพิ่งก้าวผ่านจากวัยเด็ก แต่ส่วนใหญ่แล้วก็รู้แน่นอนว่าตัวเองต้องการอะไร และมีแผนเดินทางตามที่ตั้งเป้าไว้เรียบร้อยแล้ว:

Sunset with paragliding
  • คนGen Z มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเดินทางโดย 67% รู้สึกตื่นเต้นกับทุกที่ที่จะได้ไปเยือนในอนาคต
  • 39% วางแผนที่จะไปเยือนอย่างน้อย 3 ทวีปในช่วง 10 ปีนับจากนี้และ 30% ตั้งใจว่าจะไปเรียนหรือใช้ชีวิตในต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นผู้หญิง 34% และผู้ชาย 26%
  • คนGen Z เป็นนักเดินทางขาลุยโดย 56% ต้องการประสบการณ์ผจญภัยตอนไปเที่ยว เช่น เล่นพาราไกลดิ้ง บันจี้จัมพ์ และ 52% วางแผนว่าจะไปเที่ยวหรือเดินป่าในพื้นที่สุดท้าทาย
  • คน Gen Z 33% สนใจพัฒนาทักษะของตนเองมากที่สุดผ่านการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ระหว่างที่เดินทางในช่วง 10 ปีนับจากนี้
  • คนGen Z ไม่เพียงต้องการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เท่านั้นแต่ 55% ของคนรุ่นนี้เลือกท่องเที่ยวในประเทศของตนเองเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นด้วยเช่นกัน

พร้อมลุยเดี่ยว

ชาว Gen Z จำนวนมากเริ่มเดินทางท่องเที่ยวโดยไปกับครอบครัว โดย 42% กล่าวว่าที่ต้องไปกับครอบครัวก็เพราะทำให้ได้ไปทริปที่ถ้าไปเองก็คงมีงบไม่พอ แต่เมื่อถึงเวลาที่พร้อมโบยบินออกจากรัง คน Gen Z ก็ต้องการที่จะลุยเดี่ยว

  • ความเป็นอิสระเป็นสิ่งหนึ่งที่คนรุ่นนี้ให้ความสำคัญ โดยกลุ่มคน Gen Z วางแผนว่าจะเดินทางคนเดียวอย่างน้อยสักครั้งภายในช่วง 10 ปีข้างหน้า แบ่งเป็นผู้หญิง 36% และผู้ชาย 32%
  • กลุ่มคน Gen Z มีความต้องการที่จะ “ลุยเดี่ยว” โดย 33% ชอบอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่ตอนที่เดินทาง มีสัดส่วนมากกว่าคนวัยอื่นๆ ทั้งหมด และ 18% อยากไปแบ็คแพ็คคนเดียวหรือไปเที่ยวคนเดียวหลังเรียนจบ

ลิสต์จุดหมายห้ามพลาดเมื่อเดินทางไว้แล้ว

ผู้เดินทาง Gen Z กว่า 69% ลิสต์สิ่งที่อยากทำ และสถานที่ที่อยากไปสักครั้งในชีวิตไว้เรียบร้อยแล้ว โดยตัวเลขพุ่งสูงถึง 74% ในกลุ่มสาวๆ Gen Z ในขณะที่ของหนุ่มๆ นั้นอยู่ที่ 64%  ทั้งนี้เหตุผลที่คนรุ่นนี้มีลิสต์สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางนั้นต่างกันออกไป:

  • ช่างฝัน: คนรุ่นนี้ 44% กล่าวว่าทำลิสต์ขึ้นมาเพราะรู้สึกสนุกกับการจินตนาการถึงทุกที่ที่จะได้เดินทางไปต่อจากนี้
  • มีลิสต์ยาวไม่รู้จบ: 23% กล่าวว่ารู้สึกพอใจหากได้ไปเยือนสถานที่ในลิสต์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะจะได้เพิ่มจุดหมายอื่นๆ ลงในลิสต์อีก นอกจากนี้ 32% ยังวางแผนว่าจะไปออกทริปตามลิสต์อย่างน้อย 5 ครั้งภายใน 10 ปีนับจากนี้
  • ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับจุดหมายยอดเยี่ยม: 23% กล่าวว่าการมีลิสต์สิ่งที่ห้ามพลาดช่วยให้ได้รู้จักจุดหมายการเดินทางอันน่าทึ่งไป จนถึงจุดหมายที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
  • ได้แรงบันดาลใจจากไอจี: 44% ได้แรงบันดาลใจให้ออกไปผจญภัยจากการเห็นอินฟลูเอนเซอร์แชร์ภาพทริปผ่านสื่อออนไลน์ เช่น อินสตาแกรม

การที่คนรุ่นนี้มีลิสต์สิ่งที่ห้ามพลาดนั้นไม่เพียงเผยให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเดินทางไปยังที่ใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาพรวมพฤติกรรมการเดินทางของคนรุ่นนี้อีกด้วย อันที่จริงแล้วมีคน Gen Z 31% ที่ยังไม่มีลิสต์นี้ ซึ่งเหตุผลที่ไม่มีก็แตกต่างกันไป เช่น:

    • 22% รู้สึกว่าความชื่นชอบของตนเองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ ซึ่งส่งผลต่อจุดหมายที่อยากไป
    • 20% ให้เหตุผลว่าต้องการเดินทางตามความรู้สึกในขณะนั้นมากกว่าและไม่อยากวางแผนล่วงหน้า
    • แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ คน Gen Z ที่กล่าวว่าไม่มีลิสต์สิ่งที่ห้ามพลาดเพราะอยากไปเที่ยวตามความรู้สึกในขณะนั้น กลับมีเปอร์เซ็นต์น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มคนรุ่นอื่นๆ
    • ในบรรดาคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ 49% ที่ไม่มีลิสต์จุดหมายห้ามพลาดนั้น มีถึง 30% ที่ให้เหตุผลว่าเพราะต้องการเดินทางตามความรู้สึกในขณะนั้นมากกว่า ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในบรรดากลุ่มช่วงอายุทั้งหมดที่เข้าร่วมการสำรวจ ส่วนคนรุ่นมิลเลนเนียลส์ ก็ต้องการเดินทางตามความรู้สึกในขณะนั้นมากกว่าคน Gen Z

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา