เช่าคุณพ่อผ่านออนไลน์ อีกบริการที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น หลังประเทศเกิด Single Mom มากขึ้น

ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีปัญหาเรื่องการเพิ่มของจำนวนประชากรตามที่หลายข่าวได้รายงานไป แต่นอกจากนี้ยังมีเรื่อง Single Mom ที่เกิดขึ้นมาด้วย และนั่นเป็นอีกจุดที่ทำให้บริการเช่าคุณพ่อเริ่มได้รับความนิยม

ภาพจาก pixabay.com

ทำอย่างมืออาชีพ คิดค่าตัวสูงครั้งละหมื่น

Heart Project คือกลุ่มบริษัทแรกๆ ที่ให้บริการเช่าคุณพ่อ หรือบุคคลอื่นๆ ภายในครัวเรือน เพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่นพบปะญาติผู้ใหญ่ รวมถึงเป็นบุคคลสำคัญในงานแต่งงาน ก่อตั้งโดย Ryuichi Ichinokawa ผู้ที่เคยทำธุรกิจให้คำปรึกษาเกี่ยวกับครอบครัวผ่านอินเทอร์เน็ตมาก่อนหน้านี้

“ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจเช่าคุณพ่อ ผมเคยให้คำปรึกษาครอบครัวผ่านอีเมล คิดบริการข้อความละ 3,000 เยน (ราว 900 บาท) ซึ่งตอนนั้นก็มีคนติดต่อเข้ามาเยอะ จนที่สุดก็มีหญิงสาวคนหนึ่งติดต่อเข้ามาเพื่อให้ผมขึ้นไปพูดบนเวทีในฐานะพ่อของเจ้าสาวให้ เพราะมีมีบุคคลที่น่าไว้วางใจจริงๆ และช่วยจุดประกายให้ผมเดินทางเส้นนี้” Ichinokawa กล่าว

สำหรับการเช่าคุณพ่อ หรือบุคคลอื่นๆ ในครอบครัวนั้นมีราคาอยู่ราว 30,000 เยน/คน (ราว 9,000 บาท) และถ้าต้องไปงานแต่งงานก็คิดเพิ่ม 15,000 เยน (ราว 4,500 บาท) ยิ่งถ้าต้องขึ้นไปกล่าวบนเวทีก็คิดอีก 5,000 เยน (ราว 1,500 บาท) ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับลักษณะงานที่เหมือนใครๆ ก็ทำได้

ภาพจาก pixabay.com

Single Mom และวัฒนธรรมช่วยขับเคลื่อน

“ในช่วงเริ่มต้นที่ทำก็คิดว่าจะทำเพียงคนเดียว โดยเอาเหตุผลมาจากคุณพ่อจริงๆ เริ่มหายไปจากครอบครัว จนทำให้มี Single Mom อยู่มาก แต่ผ่านไปซักพักก็มีคนอยากได้ผู้หญิง, วัยรุ่น และชายอายุเกิน 60 ผมเลยต้องหาเพื่อนร่วมงานเพิ่ม และตอนนี้ก็มีกว่า 100 คนแล้ว และการจ้างก็ไม่เคยเจอตัวจริงๆ ทุกอย่างทำผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งหมด”

ทั้งนี้ 20-30% ของงานคุณพ่อจำเป็นทั้งหมดมาจากการรับจ้างไปงานแต่งงาน และอีกสัดส่วน 30-40% มาจากการรับจ้างเป็นคุณพ่อ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่สามีภรรยาที่ต้องครองคู่กันไปยาวๆ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็อยู่ในช่วงอายุ 20-40 ปี และทุกครั้งที่รับงานก็จะคิดว่าเป็นงานที่ทำเพียงครั้งเดียว ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ

ขณะเดียวกันในประเทศญี่ปุ่นนั้นยังคงวัฒนธรรมเกี่ยวกับการพบปะเห็นหน้า โดยเฉพาะการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงาน ซึ่งจุดนี้เองก็ช่วงดึงดูดลูกค้ามาหาบริษัทด้วย เพราะนอกจากเรื่องการสูญเสียบุคคลสำคัญของครอบครัวแล้ว ความไม่ไว้วางใจ หรือเขินอายที่จะให้พ่อจริงๆ ที่บ้านมาเจรจาขอลูกสาวบ้านอื่น ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เรามีลูกค้าติดต่อเข้ามา

สรุป

ถ้าจะให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยก็คงเป็นเรื่องที่ยากพอดู เพราะคงไม่มีใครยอมรับงานแบบนี้แน่ๆ แต่บางครั้งการเปิดขึ้นมาอย่างไม่อึกทึกคึกโครมอะไรมากมาย ก็คงมีลูกค้าอยู่ประมาณหนึ่ง และน่าจะชาร์จราคาได้แพงเหมือนกับที่ญี่ปุ่น หรือปัจจุบันอาจมีงานอย่างนี้อยู่จริงๆ แล้วก็ได้ เพราะใครล่ะจะอยากเปิดเผยว่าทำงานแบบนี้

อ้างอิง // Bloomberg Businessweek

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา