Renault ลงทุน 4,400 ล้านบาท รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน

หลังความสัมพันธ์กับ Nissan และ Mitsubishi เริ่มมีปัญหา Renault ก็บินเดี่ยวด้วยการลงทุน 1,000 ล้านหยวน (ราว 4,400 ล้านบาท) เพื่อได้หุ้น 50% ของ Jiangling Motors พร้อมรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน

Renault
รถยนต์ไฟฟ้าของ Renault

เกมใหม่ของ Renault กับการบุกตลาดจีน

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกจิ๊กซอว์ในการบุกตลาดจีน ของ Renault เพราะก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในจีน 3 ราย ประกอบด้วย Dongfeng Motor เพื่อผลิต และจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Renault ในจีนเมื่อปี 2556, ร่วมกับ Nissan เพื่อตั้งกิจการร่วมค้ากับ Dongfeng Motor เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2560

และหลังจากนั้น 1 ปีก็ร่วมมือกับ Brilliance Auto เพื่อผลิตรถยนต์พาณิชย์ขนาดเล็ก โดยการลงทุนใน Jiangling Motors นั้น Renault เน้นที่การทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เพราะพาร์ทเนอร์รายนี้เป็นยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ไฟฟ้าในจีน ผ่านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 5 แสนคันในปี 2561

Jiangling Motors
แบรนด์รถกระบะ JMC ของ Jiangling Motors

Francois Provost ผู้อำนวยการอาวุโส และประธานของ Renault ประเทศจีน เล่าให้ฟังว่า การลงทุนครั้งนี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการบุกตลาดจีนดีขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทในประเทศจีนไว้ที่ 5.5 ล้านคันในปี 2563 มากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับยอดขาย 2.1 ล้านคันในปี 2561

ขณะเดียวกันที่ Renault ตัดสินใจรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนเพราะภาพรวมตลาดมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ผ่านการสนับสนุนเต็มที่ของรัฐบาล เช่นในปี 2561 มีรถยนต์พลังงานทางเลือกที่ประกอบด้วยรถยนต์ไฟฟ้าล้วน, รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid และอื่นๆ ถึง 1.2 ล้านคัน มากกว่าปีก่อนหน้านี้ถึง 62%

BYD
รถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่จำหน่ายในจีน

ส่วน 6 เดือนแรกของปี 2561 นั้นรถยนต์พลังงานทางเลือกในจีนมียอดขาย 6.1 แสนคัน เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในจีนครึ่งปีแรกอยู่ที่ 12.3 ล้านคัน ลดลง 12.4% โดยรัฐบาลจีนคาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าจำหน่ายถึง 7 ล้านคันภายในปี 2568

สรุป

จีนคือตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และกลายเป็นโอกาสใหม่ของหลากหลายค่ายผู้ผลิตรถยนต์ เพราะมีทั้ง Volkswagen, Ford และ BMW ที่ต่างเข้าไปจับมือกับผู้ผลิตรถยนต์ที่จีนเพื่อเดินหน้ารถยนต์ไฟฟ้าด้วยกัน แต่อีกไม่นานนี้การสนับสนุนของภาครัฐก็จะสิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้นต้องจับตาว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนจะเติบโตต่อไปหรือไม่

อ้างอิง // CNN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา