การท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ หรือ Red Tourism กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนจีน ด้วยนักท่องเที่ยวทะลุ 100 ล้านคนในปี 2020 และมูลค่าอาจสูงเกือบ 5 ล้านล้านบาทภายในปี 2023
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ไม่สามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวในต่างประเทศได้เหมือนเดิม ทำให้ชาวจีนเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นการทดแทน แต่รู้หรือไม่ว่า การท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม ไม่ใช่การเยี่ยมชมธรรมชาติ น้ำตก ภูเขา หรือสวนสนุกอีกต่อไป แต่เป็นการท่องเที่ยวเพื่อย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ หรือเรียกว่า Red Tourism
การท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ของชาวจีน ไม่ได้ต่างจากการท่องเที่ยวย้อนรอยแบบอื่นๆ เพียงแต่เป็นการย้อนรอยกลับไปหาจุดกำเนิดของคอมมิวนิสต์ในประเทศจีนว่ามีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ใด โดยเฉพาะที่เมืองเหยียนอัน ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติจีนช่วงก่อนปี 1948
การท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์นี้ มีทั้งการนำดอกไม้ไปเคารพรูปปั้นของ เหมา เจ๋อ ตุง หรือแม้แต่มองดูไปที่ชุดเก้าอี้ที่สี จิ้น ผิง ใช้ในวันที่เขาเดินทางมายังบ้านของเหมา เจ๋อ ตุง
ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะเป็นวันครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ คาดว่าจะสามารถดึงดูดให้ชาวจีนหันมาท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ได้มากขึ้น
สวนสนุกที่ไม่ใช่ Disneyland แต่เป็นสวนสนุกธีมคอมมิวนิสต์
นอกจากการเยี่ยมชมพื้นที่ทางประวัติศาตร์ที่มีความสำคัญต่อความเป็นคอมมิวนิสต์ของจีนแล้ว ยังมีการสร้างสวนสนุก ที่มาในธีมคอมมิวนิสต์ โดยภายในก็ไม่ได้ต่างจากสวนสนุกทั่วๆ ไป ที่จะมีขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนต่างๆ แต่สวนสนุกคอมมิวนิสต์จะมีขบวนพาเหรดที่นักแสดงสวมใส่ชุดทหารสีแดง รายล้อมไปด้วยนักท่องเที่ยวที่สามารถถ่ายรูป และซื้อของฝากได้ ไม่ต่างจากสวนสนุกทั่วไป
สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีของจีน เป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนให้ชาวจีนทุกคนเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์มาตั้งแต่เขาจะขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2012 ถึงขนาดที่เคยยกว่า การท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ เป็นเหมือนห้องเรียนมีที่ชีวิต และคนรุ่นใหม่ควรเรียนรู้ประวัติศาสตร์การปฏิวัติจีนตั้งแต่ในช่วงวัยเด็ก จะได้มียีนส์ความเป็นคอมมิวนิสต์แทรกซึมอยู่ในสายเลือด และจิตใจ ช่วยให้คนรุ่นใหม่มีมุมมองต่อโลกที่ถูกต้อง
จากสถิติของ Trip.com เว็บไซต์การท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศจีน ได้เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนนี้ยอดจองการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเท่าตัว และคาดการณ์ว่าในช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์มีอายุครบ 100 ปี ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ยอดจองก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีก
อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์นี้ ได้รับการคัดเลือกให้นำเสนอแต่สิ่งดีๆ เท่านั้น ภาพความรุนแรง เลือด และการสูญเสียของคนจำนวนมากจะไม่ได้รับการนำเสนอ
ด้านมูลค่าของการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ก็ไม่ธรรมดา เพราะระหว่างปี 2019-2023 มีการคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวชนิดนี้จะเติบโตถึง 14.1% และจะมีมูลค่าสูงถึง 1.53 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.87 ล้านล้านบาทในปี 2023
ด้านจำนวนนักท่องเที่ยว พบว่าในปี 2020 นักท่องเที่ยวที่ย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์รวมทั้งสิ้น 100 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 11% ของการท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งหมด
รัฐบาลจีนจริงจังกับ Red Tourism แค่ไหน?
แม้ว่าการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติคอมมิวนิสต์จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะได้ถูกระบุไว้เป็นแผนการท่องเที่ยวของประเทศตั้งแต่ปี 2004 แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ารัฐบาลจีนจริงจังกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากถึงขนาดทำโครงการคัดเลือกผู้นำเที่ยวย้อนรอยคอมมิวนิสต์จำนวน 100 คน เพื่ออบรมทักษะที่รัฐบาลกำหนด เช่น การเล่าเรื่อง การตีความ ความจงรักภักดี และความเป็นผู้นำในมุมมองคอมมิวนิสต์
แม้ในช่วงแรกๆ รัฐบาลจีนต้องการใช้การท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ในฐานะที่เป็นเครื่องมือทางการศึกษารูปแบบหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าในช่วงหลังๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ได้มาเพราะจำเป็นต้องมา แต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง แถมกลุ่มนักท่องเที่ยวยังมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ โดยจากการศึกษาของ Tongcheng-Elong เว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวพบว่า นักท่องเที่ยวที่มีอายุ 21-30 ปี กว่า 40% เป็นกลุ่มที่จอง หรือค้นหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา