กลับมาดีกัน? Renault-Nissan ขอใช้เทคโนโลยี และชิ้นส่วนรถยนต์ร่วมกัน สู้วิกฤต COVID-19

หลังทะเลาะกันพักหนึ่ง ในที่สุด พันธมิตร Renault-Nissan ได้คืนดีกัน พร้อมประกาศใช้ชิ้นส่วน, เทคโนโลยี และรุ่นรถยนต์ร่วมกัน เพื่อประหยัดต้นทุนในการผลิต หลังอุตสาหกรรมรถยนต์ถูกวิกฤต COVID-19 โจมตีอย่างหนัก

nissan renault
Nissan และ Renault

ประหยัดต้นทุนคือเรื่องจำเป็น

Jean-Dominique Senard ประธานคณะกรรมการบริหารของกลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan แจ้งว่า หลังจากนี้กลุ่มพันธมิตรที่ประกอบด้วย Renault, Nissan และ Mitsubishi จะเน้นทำตลาดตามภูมิภาคที่เหมาะสมในแต่ละแบรนด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการแข่งขันทางธุรกิจ พร้อมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจที่คาดเดาไม่ได้

“ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาสร้างทุกอย่างกันใหม่ และไม่ได้เน้นแต่เป้ายอดขาย โดย Renault จะเน้นทำตลาดยุโรป, รัสเซีย, อเมริกาใต้ และแอฟริกาใต้ ส่วน Nissan จะเน้นทำตลาดจีน, อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น สุดท้าย Mitsubishi จะทำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, โอเชียเนีย และอื่นๆ”

นอกจากแยกภูมิภาคในการทำตลาด พันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi ยังเดินหน้านโยบายแชร์แพลตฟอร์ม และเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างรถยนต์, เครื่องยนต์, มอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงระบบรถยนต์ไร้คนขับ ถือเป็นการประกาศความชัดเจนในพันธมิตรนี้ หลังจาก Renault และ Nissan มีปัญหาในช่วง Carlos Ghosn หายไป

ทั้งนี้การแชร์แพลตฟอร์มจะทำให้กลุ่มพันธมิตรประหยัดต้นทุนการผลิตกว่า 2,000 ล้านยูโร (ราว 70,000 ล้านบาท) ส่วนการถือหุ้นของกลุ่มพันธมิตรนี้จะแบ่งเป็น Renault เป็นถือหุ้น Nissan 43% และ Nissan ถือหุ้น Renault 15% ส่วนรัฐบาลฝรั่งเศสถือหุ้น Renault ที่ 15%

สรุป

เวลานี้คงไม่ใช่เวลาที่มาทะเลาะกัน เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์มีปัญหาทั่วโลก จึงไม่แปลกที่ Renault-Nissan-Mitsubishi จะหันมาจับมือกันแน่นอีกครั้ง เพื่อประหยัดต้นทุน และฝ่าวิกฤต COVID-19 ไปให้ได้ก่อน หลังจากนั้นค่อยมาว่ากันเรื่องปัญหาภายในกันใหม่

อ้างอิง // CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา