ยกทัพบุกไทย Kiztopia สวนสนุกในร่มส่งตรงจากสิงคโปร์ เปิดแล้วที่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์
คิซโทเปีย (Kiztopia) ศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับเด็กขนาดใหญ่จากสิงคโปร์ เพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมให้บริการแล้ววันนี้กับสาขาแฟล็กชิปแห่งแรกในเมืองไทยที่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (Central Westville) ใจกลางย่านราชพฤกษ์
การเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของคิซโทเปียที่ขยายพื้นที่พิเศษให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยพลังแห่งความสร้างสรรค์ และฝึกทักษะทางสังคม อารมณ์ และการเคลื่อนไหวผ่านการเล่นอย่างมีจุดมุ่งหมายในปัจจุบัน พร้อมมอบประสบการณ์ครบวงจรที่ทั้งครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างไม่รู้จบ ผสานทั้งการเล่น การเรียนรู้ สร้างความผูกพัน และอิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารที่รวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของเวลาอันมีค่าและความสัมพันธ์อันอบอุ่น
ด้วยพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร และอีก 16 โซนพร้อมเครื่องเล่นที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับพัฒนาการแบบองค์รวมของเด็ก ๆ ผ่านการนำเสนอการเรียนรู้และความสนุกที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์สูง 2 ชั้นอันน่าตื่นเต้นที่พร้อมสูบฉีดอะดรีนาลีน, บ้านบอลขนาดใหญ่, สนามกีดขวางและ โซนเอ็กซ์ตรีมสุดท้าทาย, กระโดดเพลินกันบนแทรมโพลีนที่สนุกเกินห้ามใจ รวมไปถึงโซน interactive ที่มีบทบาทสมมติให้เด็ก ๆ ได้ลองเล่น และอื่น ๆ อีกมากมาย
สวรรค์แห่งความบันเทิงเพื่อคุณหนู ๆ แห่งนี้มีคาแรคเตอร์หลักเป็นสัตว์ทั้งหมด 8 ชนิด ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของแบรนด์คิซโทเปีย โดยตัวละครทั้ง 8 จะคอยสร้างสีสันและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชฟหมี Bell, Tiger นักกีฬาจอมพลัง, Happy ฮิปโปสาวนักเต้น, Eli วิศวกรช้างมือหนึ่ง, คุณครูกระต่ายสาว Raby, Mark เจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์, Honey ผึ้งน้อยเสียงหวาน และ Drago พี่มังกรนักข่าวแสนฉลาด
ผองเพื่อนรักทั้ง 8 จะพาเด็ก ๆ เดินทางไปสู่ดินแดนยูโทเปีย ซึ่งดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์การเล่นด้วยทักษะต่าง ๆ ทั้งการเคลื่อนไหว การสื่อสาร และการเข้าสังคม ให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผ่านสิ่งแวดล้อมรอบตัว พร้อมกำหนดนิยามใหม่ของสนามเด็กเล่นในร่มในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร กับพื้นที่เล่นทั้งหมด 16 โซน ดังนี้
ดินแดนของพี่มังกร Drago: สนุกสุดเหวี่ยงกันอย่างเต็มที่ไปกับปราสาทเด้งดึ๋งแห่งใหม่ของพี่มังกร Drago
สถานีรถไฟสุดหรรษาของ Eli: กระโดดขึ้นรถไฟของ Eli พร้อมออกเดินทางสู่การผจญภัยที่รออยู่ข้างหน้า อย่ารอช้าที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก!
สนามแข่งรถ อารีน่าของ Tiger: ให้เหล่านักซิ่งตัวน้อยขี่รถมินิไบค์คันโปรดที่ Tiger’s Arena และเพลิดเพลินไปกับการขับรถบน”ถนน” อย่าลืมแวะเติมน้ำมันที่ “ปั๊มน้ำมัน” ตรงมุมถนนนะ!
โซนนักรบนินจา: กับหลักสูตรพิเศษและอุปสรรคสิ่งกีดขวาง ที่ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาความมั่นใจ ความมุ่งมั่น ความคล่องตัว และความแข็งแกร่ง! เหมาะสำหรับนักผจญภัยรุ่นเยาว์และเหล่านินจาตัวจิ่ว!
Tiger’s Mojo Zone: ค้นหาความสนุกไม่รู้จบกับพื้นที่เล่นที่เอ็กซ์ตรีมที่สุดในสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งมี การเล่นทั้งหมด 4 ระดับและยังรวมกิจกรรมอันแสนตื่นเต้นเร้าใจที่จะทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีด! ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์ขนาดยักษ์ รวมพลสิ่งกีดขวาง การปีนหน้าผา แทรมโพลีนเด้งดึ๋ง โซนดนตรี ชิงช้า และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแต่ละระดับจะให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้เปิดประสบการณ์ความสนุกไร้ขีดจำกัดในสนามเด็กเล่นสุดมันส์ของ Tiger!
กระโดดไปบนแทรมโพลีน ของ Mark: ตามเจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์ไปเปิดประสบการณ์ความสนุกเหนือแรงโน้มถ่วงบนแทรมโพลีนสุดเพลิดเพลิน โดยเด็ก ๆ จะได้ปลดปล่อยพลังผ่านการกระโดด พร้อมกับทดสอบความคล่องตัว (น้ำหนักของผู้เล่นไม่ควรเกิน 40 กิโลกรัม)
โซนบ่อทรายแสนสนุก ของ Eli: ปล่อยให้จินตนาการและความสร้างสรรค์ของคุณหนู ๆ โลดแล่นออกมาบนบ่อทรายของ Eli พี่ช้างตัวเบิ้ม ที่พวกเขาจะสามารถขุด ปั้น เล่น สร้างปราสาท”ทราย” ของตัวเอง หรือแม้แต่กลิ้งไปมาบนพื้นทรายได้แม้ยามฝนจะตกหรือแดดออกก็ตาม!
Raby’s Mart: ซูเปอร์มาร์เก็ตที่จำลองสำหรับเด็ก ให้คุณหนู ๆ ได้ปลดปล่อยจินตนาการไปกับการเล่นบทบาทสมมติ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมและการเรียนรู้คณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานไปกับคุณครูกระต่ายสาว Raby! เด็ก ๆ สามารถเล่นเป็นนักช้อปตัวจิ๋วที่กำลังเดินเล่นซื้อของในซูเปอร์มาเก็ตที่มีสินค้าครบครัน หรือจะเป็นพนักงานแคชเชียร์ที่เคาน์เตอร์ชำระเงินก็ได้เช่นกัน!
Raby’s Clinic: ช่วยคุณครูกระต่ายสาวกอบกู้โลกไปพร้อม ๆ กัน ที่คลินิคของ Raby คุณหนู ๆ จะได้ฝึกทักษะเป็นแพทย์ตัวน้อย ผ่านการช่วยรักษาและปลอบโยนเหล่า “ผู้ป่วยสัตว์น้อยใหญ่” รวมไปถึงการทดลองวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยด้วยใช้รังสีเอกซ์และกราฟระบุโรค
ฟาร์มของ Honey: สวมบทบาทเจ้าของฟาร์มแบบเต็มขั้นไปกับผึ้งน้อย Honey ที่ซึ่งเด็ก ๆ จะได้ลองเรียนรู้ทั้งการรีดนมวัว การเก็บพืชผล และการปลูกเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งผูกมิตรกับผืนดิน ธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับการเฝ้าดูสิ่งต่าง ๆ เจริญเติบโต!
ร้านอาหารของเชฟ Bell: คลาสเข้าครัวกับเชฟหมี Bell และเรียนรู้วิธีการทำอาหารแบบง่าย ๆ เสริมทักษะการสื่อสาร และร่วมมือกันทำงาน! หนู ๆ จะได้เรียนรู้ตั้งแต่อุปกรณ์ทำครัว เตาอบ ไปจนถึงเครื่องทำขนมปัง หรือแม้แต่ส่วนผสมในจานเด็ดของเชฟหมี Bell ในโซนนี้มีทุกสิ่งครบครันพร้อมสำหรับเชฟตัวจิ๋ว!
โซนต่อบล็อกของ Mark: ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ไปกับเจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่นชอบการคิดค้นสิ่งใหม่เป็นที่สุด ผ่านการทดลองประดิษฐ์ต่อบล็อคให้เป็นสิ่งต่าง ๆ ไปด้วยกัน
Happy’s Studio: สำหรับคุณหนู ๆ ที่รักสวยรักงามและชื่นชอบการแต่งหน้าทำผม บอกเลยว่าไม่ควรพลาดกับ Happy’s Studio! เพราะในโซนนี้ทุกคนจะได้เล่นแต่งตัวกับเสื้อผ้าสุดน่ารักหลากหลายสไตล์ กับ Happy ฮิปโปสาวนักเต้นบัลเลต์ ให้เด็ก ๆ สำรวจความงามจากภายในและสร้างความมั่นใจในตัวเองไปพร้อมกัน
คราฟท์โซนของพี่มังกร Drago: ปลดปล่อยพลังแห่งจินตนาการที่คราฟท์โซนส่วนตัวที่พี่ Drago จัดกิจกรรมศิลปะและงานฝีมือไว้อย่างเต็มเปี่ยมสำหรับน้อง ๆ โดยเฉพาะ นอกจากนี้ทั้งครอบครัวยังจะได้กระชับสายสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อเตรียมพร้อมลงมือและครีเอทผลงานอันยอดเยี่ยม!
Bell’s Café: เหนื่อยกันแล้วหรือยัง? มาแวะพักเติมพลังที่ คาเฟ่เชฟหมี Bell ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มเมนูพิเศษ และของว่างแสนอร่อยให้ทุกคน ก่อนที่จะกลับไปสนุกกันต่อ!
Hero Square: ชมการแสดงและพบปะเหล่าคาแรคเตอร์สุดน่ารักจากคิซโทเปีย และเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้สุดพิเศษได้ที่ Hero Square! ห้ามพลาดกับเซอร์ไพรส์จาก เบล ที่จะมาทักทายแฟน ๆ และมอบเสียงหัวเราะให้กับทุกคน
โดยค่าเข้าเด็กเล็กสูงไม่เกิน 80 ซ.ม. 1 ชั่วโมงแรกเข้าเล่นฟรี ชั่วโมงต่อไป 120 บาท ส่วนเด็กโตที่มีความสูงเกิน 81 ซ.ม. ค่าเข้าเริ่มต้นชั่วโมงแรก 360 บาท และผู้ปกครองที่อยากเข้าไปเล่นกับลูกหลานค่าเข้าเริ่มต้นชั่วโมงแรก160 บาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา