การประกาศลาออกจากกลุ่ม OPEC ของกาตาร์ได้สร้างความแปลกใจให้กับนานาชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากกาตาร์เป็นสมาชิกมาอย่างยาวนาน แต่เรื่องนี้รัฐมนตรีพลังงานของกาตาร์ได้กล่าวว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และซาอุดิอาระเบีย
กาตาร์ประกาศก่อนการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หรือ OPEC ว่าจะขอออกจากกลุ่ม โดยจะมีผลในเดือนมกราคมปี 2019 ซึ่งกาตาร์เป็นสมาชิกในกลุ่ม OPEC มาตั้งแต่ปี 1961 และเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันอันดับที่ 11 การลาออกของกาตาร์ครั้งนี้ถือว่าสร้างความแปลกใจ เนื่องจากเป็นการประกาศลาออกก่อนการประชุมครั้งสำคัญในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
สำหรับการประชุมของกลุ่ม OPEC ในประเทศออสเตรีย คาดว่าจะมีการประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงมา เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกลดลงจากจุดสูงสุดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาถึง 30% นอกจากนี้ยังมีการพบปะล่วงหน้าของ 2 ผู้นำอย่างรัสเซียและซาอุดิอาระเบียที่การประชุม G20 มาแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
Saad al-Kaabi รัฐมนตรีพลังงานของกาตาร์ ได้กล่าวถึงการออกจากกลุ่ม OPEC ว่า “เรามองตามความเป็นจริงว่าตอนนี้เราไม่เห็นศักยภาพของน้ำมันในอนาคตเลย แต่เราเห็นศักยภาพของก๊าซธรรมชาติในอนาคต” นอกจากนี้รัฐมนตรีพลังงานยังได้กล่าวว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการประกาศลาออกจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ดีผลกระทบนี้ถือว่าน้อยมาก เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบที่กาตาร์ผลิตนั้นไม่ถึง 2% ของปริมาณผลิตรวมของ OPEC
หลังจากนี้กาตาร์ประกาศว่าจะเน้นการส่งออกก๊าซธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันประเทศกาตาร์เป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวอันดับ 1 ของโลก ปัจจุบันมีกำลังการผลิตประมาณ 77 ล้านตันต่อปี ยังรวมไปถึงการที่เตรียมจะก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่ซึ่งจะมีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางด้วย
อย่างไรก็ดีรัฐมนตรีพลังงานของกาตาร์ยังได้กล่าวว่า การที่ประกาศออกจากกลุ่ม OPEC นั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งก่อนหน้านี้กาตาร์โดนกลุ่ม GCC นำโดยซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฯลฯ ประกาศบอยคอตกาตาร์ ในเรื่องของการที่กาตาร์สนับสนุนการก่อการร้าย โดยรห้ามเครื่องบินของกาตาร์บินผ่านน่านฟ้า หรือแม้แต่ การปิดพรมแดนระหว่างกาตาร์กับซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น
ที่มา – The Guardian, BBC, USA Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา